Finanace

รวม 6 วิธีที่ Startup ใช้เพื่อบริหารจัดการเงินและความมั่งคั่งของตัวเอง

Text : นเรศ เหล่าพรรณราย

     ผู้ก่อตั้งหรือเจ้าของกิจการประเภท Startup มีความแตกต่างจากการเป็นเจ้าของกิจการธุรกิจเอสเอ็มอีทั่วไปตรงที่มีรูปแบบของการรับรายได้และผลประโยชน์ในหลายทาง ทำให้การบริหารจัดการการเงินของตัวเองมีแนวทางที่หลากหลายด้วยเช่นกัน เราไปดูกันว่าเจ้าของกิจการ Startup โดยทั่วไปมีวิธีการบริหารเงินและความมั่งคั่งของตัวเองอย่างไร
 
     1.รับรายได้จากเงินเดือนปกติ 

       หลังจากที่กิจการเริ่มมีความมั่งคงหรือมีการร่วมลงทุนจาก VC แล้ว ผู้ก่อตั้งที่อาจจะยังไม่มีรายได้จากกิจการตัวเองมาก่อนก็เริ่มที่จะมีการรับเงินเดือนของตัวเองจากเงินของบริษัทที่ได้มาจากผู้ร่วมลงทุนแล้ว ซึ่งเรทที่ได้ก็มีความเหมาะสมกับสถานะทางการเงินของบริษัท

     2.ไม่รับเงินเดือนแต่รับผลตอบแทนเป็น Stock Options 

       วิธีนี้มักจได้ยินบ่อยๆจากเจ้าของบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐฯที่ต้องการจะไม่เสียภาษีเงินได้บุคคละรรมดา แต่ได้ผลตอบแทนจากการที่สร้างผลงานจนบริษัทเติบโตและได้หุ้นสามัญของบริษัทเข้ามาเพิ่มซึ่งภาษีที่เกิดจาก Stock Options อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าภาษีบุคคลธรรมดามาก





     3.รับผลประโยชน์จาก Profit Sharing 

       เป็นวิธีการรับรายได้ในช่วงที่บริษัทยังไม่แข็งแรงหรือยังไม่เกิดการร่วมทุนโดยผู้ถือหุ้นจะตกลงกันว่าจะรับรู้รายได้แบ่งสัดส่วนตามเปอร์เซ็นต์ของการถือหุ้น โดยมีมีรายได้เข้ามาหักต้นทุนแล้วก็นำมาแบ่งให้กับกลุ่มผู้ถือหุ้นด้วยกัน วิธีการนี้จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเริ่มต้นไปได้โดยที่ยังไม่มีเงินทุนมากนักและผู้ก่อตั้งก็สามารถบริหารจัดการการเงินของตัวเองได้


     4.รับผลประโยชน์เมื่อเกิดการระดมทุน 

       กลุ่มผู้ร่วมก่อตั้ง Startup อาจจะตกลงกันว่าจะร่วมมือกันทำให้กิจการเติบโตไปได้จนเกิดการระดมทุนโดยคนนอกไม่ว่าจะเป็น VC หรือ Angels โดยมีการขายหุ้นบางส่วนของตัวเองออกไปและจะเกิดผลตอบแทนในรูปแบบของ Capital Gain โดยอาจจะตั้งข้อตกลงกันว่าเมื่อเกิดการ Raise Fund ในรอบต่างๆจะขายหุ้นออกในสัดส่วนเท่าไรและยังมีอำนาจในการบริหารอยู่อีกหรือไม่




     
     5.รับผลประโยชน์จากเงินปันผล
 

       หาก Startup นั้นๆมีผลกำไรอย่างต่อเนื่อง ผู้ร่วมก่อตั้งก็อาจจะรับผลตอบแทนจากเงินปันผลประจำปีได้เช่นกัน โดยการปันผลจะขึ้นอยู่กับผลประกอบการประจำปีนั้น ทั้งในรูปแบบของตัวเงินหรืออาจจะเป็นหุ้นสามัญก็ได้เช่นกัน


     6.ผลตอบแทนจากค่าลิขสิทธิ 

        ถ้าหากกิจการมีการขยายตัวเช่นมีการขายสิทธิการค้า แฟรนไชส์ ขยายสาขาไปยังต่างประเทศ ผู้ก่อตั้งก็อาจมีส่วนร่วมในการแบ่งผลประโยชน์ในการขายสิทธิเหล่านั้นด้วยเช่นกัน เช่น ออกนโยบายว่าจะแบ่งกำไรในสัดส่วนกี่เปอร์เซ็นต์ของรายได้ที่เกิดขึ้น วิธีนี้มักใช้กับสินค้าและบริการที่ผู้ก่อตั้งเป็นผู้คิดค้นเทคโนโลยีเฉพาะตัวขึ้น

     เห็นได้ว่าผู้ก่อตั้ง Startup มีวิธีการรับผลประโยชน์ในหลายทางจึงขึ้นอยู่กับข้อตกลงในกลุ่มผู้ร่วมก่อตั้งตลอดจนผู้ร่วมลงทุนว่าจะรับผลประโยชน์ในรูปแบบใดบ้างเพื่อให้ลงตัวกันทุกฝ่าย

 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup