Finanace

Social Credit Score ตัวช่วยเข้าถึงแหล่งเงินกู้ยุคใหม่สุดง่าย ได้ไว ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำ

นเรศ เหล่าพรรณราย Co-founders SCN Media Pte.Ltd 




     โดยทั่วไปแล้วหลักเกณฑ์การพิจารณาปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการ SME มักจะใช้หลักเกณฑ์ของหลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่มากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของธุรกิจ SME มักจะไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ขณะเดียวกันธุรกิจขนาดเล็ก หรือ Micro SME บางส่วนอาจจะไม่ได้เข้าถึงบริการทางการเงิน เช่น เป็นเจ้าของบัญชีธนาคารเสียด้วยซ้ำ ทำให้ขาดโอกาสในการเข้าถึงแหล่งการเงิน เพราะแม้แต่ธนาคารก็ไม่มีข้อมูลของพวกเขาเหล่านี้


     อย่างไรก็ตาม ในยุคดิจิทัลตลอดจนการมาของฟินเทค เทคโนโลยีเอไอ และบิ๊กดาต้า ทำให้สถาบันการเงินมีทางเลือกใหม่ในการพิจารณาสินเชื่อมากขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องใช้หลักประกัน นั่นคือการใช้วิธีพิจารณาโดยใช้ Social Credit Score แทน






     ซึ่งหลักการของ Social Credit Score ก็คือการพิจารณาความน่าเชื่อถือของผู้กู้โดยใช้ข้อมูลตัวตนที่ปรากฏอยู่ในสังคมออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลและพฤติกรรมที่เกิดขึ้นบนสื่อสังคมออนไลน์อย่าง เฟซบุ๊ก กูเกิล ตลอดจนข้อมูลทางการเงินอื่นๆอย่างการชำระค่าสาธารณูปโภคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า หรือค่าโทรศัพท์ 


     หลักการพิจารณาโดยใช้  Social Credit Score ทางแพลตฟอร์มที่ให้บริการจะเข้าถึงข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์โดยเฉพาะเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นสื่อสังคมออนไลน์ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก และมีฟีเจอร์ที่รองรับการใช้งานทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์ข้อความ รูปภาพ คลิปวิดีโอ ตลอดจนบางประเทศสามารถซื้อ-ขายสินค้าได้      





     ทั้งนี้การปล่อยเงินกู้จะใช้การวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ที่เราได้โพสต์ลงไปในสื่อสังคมออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นคำพูด ความรู้สึก พฤติกรรมการแสดงออกต่างๆ สิ่งที่นำมาแชร์บนแพลตฟอร์ม ฯลฯ และนำสิ่งเหล่านั้นมาประมวลผลเพื่อที่จะชี้วัดถึงความน่าเชื่อถือของบุคคลนั้นๆ ว่า จะมีความสามารถในการชำระหนี้ได้หรือไม่


     นอกจากนี้ ยังพิจารณาถึงสิ่งที่เราได้ “ค้นหา” ในโลกออนไลน์ เช่น คีย์เวิร์ดต่างๆ เว็บไซต์ที่ค้นหา สินค้าที่ซื้อบนออนไลน์ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้จะบ่งบอกถึงพฤติกรรมของเราซึ่งจะถูกนำไปใช้ในการพิจารณาสินเชื่อ 


     ไม่เพียงเท่านี้ Social Credit Score ยังรวมไปถึงการเก็บพฤติกรรมที่เกิดขึ้นด้วยเทคโนโลยี Facial Recognition หรือการบันทึกข้อมูลผ่านใบหน้าที่ได้ลงทะเบียนยืนยันตัวเองไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อที่จะใช้ในการทำธุรกรรมต่างๆ เช่น ติดต่อราชการหรือทำธุรกรรมทางการเงิน 





       ประเทศจีนถือเป็นประเทศที่ก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี Facial Recognition เป็นอย่างมาก โดยได้ทำการจัดเก็บข้อมูลประชากรจำนวนกว่าพันล้านรายเอาไว้ในฐานข้อมูล โดยกล้องวงจรปิดที่มีอยู่ทั่วประเทศจะสามารถเก็บพฤติกรรมต่างๆ เอาไว้ และผู้ที่พิจารณาปล่อยเงินกู้สามารถนำมาใช้ประกอบการพิจารณาได้ เช่น ถ้าทำผิดกฎหมายแม้เพียงเล็กน้อย เช่น ทิ้งขยะก็อาจมีผลต่อคะแนนพฤติกรรมได้ สำหรับประเทศไทยยังไม่ได้รับรองให้ใช้ได้ตามกฎหมาย


     สำหรับผู้ประกอบการ SME โดยเฉพาะรายเล็กที่ไม่เคยมีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินกู้มาก่อน นี่คือโอกาสดีที่จะสามารถได้รับแหล่งเงินทุน ไม่ว่าจากสถาบันการเงิน หรือบริษัทเทคโนโลยีการเงิน อย่างไรก็ตาม ต้องจำไว้ว่าพฤติกรรมบนโลกออนไลน์จะมีผลต่อการพิจารณาความน่าเชื่อถือ



www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup