Text : เจษฎา ปุรินทวรกุล





Main Idea
 

• แม้การทำบัญชีด้วยตัวเองจะช่วยประหยัดเงินได้ในระยะสั้น แต่ในระยะยาว และการมีผู้เชี่ยวชาญ ย่อมมีประโยชน์กับธุรกิจมากกว่า

     โดยปกติแล้ว ผู้ประกอบการขนาดเล็กหรือผู้ประกอบการรายใหม่ที่เพิ่งเข้าวงการธุรกิจได้ไม่นาน มักไม่ค่อยจ้างนักบัญชีมาช่วยดูแลภาพรวมการเงินให้ซักเท่าไหร่ เพราะเงินกำไรแต่ละบาทนั้น ได้มาด้วยความยากลำบาก หรืออาจมองว่าเป็นช่วงที่ธุรกิจกำลังตั้งตัว จึงไม่ต้องการลงทุนในส่วนนี้เพิ่ม แต่ในความเป็นจริงแล้ว การทำบัญชีด้วยตัวเองจะช่วยให้เราประหยัดเงินได้ในระยะสั้นเท่านั้น หากมองในระยะยาวการทำบัญชีด้วยตัวเองอาจเป็นเรื่องที่กินแรงมากเกินไป และการมีภาพรวมการเงินที่ครบถ้วนเป็นระบบจากผู้เชี่ยวชาญ ย่อมมีประโยชน์กับเรามากกว่า โดยเหตุผลที่เราควรมีนักบัญชี (หรือจ้าง Outsource) ก็คือ



 
     1. ประหยัดเวลาและคลายความกังวล

     จากผลสำรวจของบริษัท Onpay ซึ่งดูแลเรื่องข้อมูลทางการเงินให้กับธุรกิจขนาดเล็กในสหรัฐฯ พบว่า 28 เปอร์เซ็นต์ของธุรกิจขนาดเล็ก ถูกตรวจสอบโดยกรมสรรพากรของสหรัฐฯ โดยส่วนใหญ่มักบอกว่าการถูกตรวจสอบคือ “ฝันร้าย” แม้ว่าเราจะมั่นใจว่า “น่าจะ” ทำทุกอย่างถูกต้อง สุดท้ายก็ต้องเตรียมตัวเตรียมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และทบทวนข้อมูลทั้งหมดด้วยตัวเองอีกครั้งอยู่ดี ทั้งหมดนี้คือความกังวล ความเครียด และเวลาที่ต้องเสียไป ดังนั้น การมีนักบัญชีไม่ว่าจะเป็นลูกจ้างประจำหรือนักบัญชีจากหน่วยงานภายนอกไว้คอยช่วยเหลือ ย่อมทำให้ภาระนี้เบาลงไปได้อย่างมหาศาล




     2. สามารถช่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการเงินได้เต็มที่

     นอกจากเรื่องภาษีแล้ว นักบัญชียังมีความรู้ความสามารถในการช่วยเหลือและให้คำปรึกษาด้านการเงินของบริษัทอีกด้วย ซึ่งจากรายงานของบริษัท Onpay พบว่า เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กร้อยละ 32 คาดหวังว่านักบัญชีจะสามารถช่วยพยากรณ์งบการเงิน (Financial Projections) ได้ และร้อยละ 27 ต้องการคำแนะนำด้านกระแสเงินสด (Cash Flow)

     จำไว้เสมอว่าเมื่อเราเริ่มต้นธุรกิจ จะมีสิ่งที่เราต้องรับผิดชอบหลายอย่าง ทั้งการขับเคลื่อนธุรกิจ ดูแลการผลิต หาช่องทางจำหน่าย เพิ่มยอดขาย เสนอบริการที่ดีให้กับลูกค้า แก้ปัญหาให้กับลูกค้า แต่ถ้าเราต้องมาคอยรับมือปัญหาด้านการเงินการบัญชีอีก คงเครียดเกินจะรับมือไหวแน่นอน ดังนั้น การมีผู้ที่จะมาช่วยดูแลงานด้านบัญชีที่ค่อนข้างยุ่งยาก จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างมาก





     3. ให้คำปรึกษาในเชิงธุรกิจได้ด้วย

     นักบัญชีที่มีความชำนาญ จะช่วยให้คำปรึกษากลยุทธ์ต่างๆ ในการทำธุรกิจได้ด้วย โดยผู้ตอบแบบสอบถามของ Onpay กว่าร้อยละ 87 เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งว่านักบัญชีเป็นที่ปรึกษาที่ไว้วางใจได้และสามารถให้คำปรึกษาในเชิงธุรกิจได้หลายเรื่อง นั่นก็เพราะว่านักบัญชีจะมีโอกาสทำงานร่วมกับธุรกิจหรืองานอื่นๆ มากมาย จึงเข้าใจในสิ่งที่เราต้องการ เช่น ถ้าต้องการปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น หรือเพิ่มเงินเดือนและสวัสดิการให้กับพนักงาน จะกระทบกับรายรับรายจ่ายส่วนใดและอย่างไรบ้าง นักบัญชีมืออาชีพจะสามารถให้คำตอบกับเราได้อย่างชัดเจน


     4. ตรงไปตรงมา

     จากผลการสำรวจพบว่า ผู้ประกอบการกว่าร้อยละ 82 ให้ความไว้วางใจคำแนะนำของนักบัญชีเป็นอย่างมาก เพราะเขามีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าจะทำอะไรให้กับเรา นั่นก็คือ เอกสาร ตัวเลข และหลักฐาน นอกจากนี้เวลาให้คำแนะนำ นักบัญชียังไม่มีอคติเหมือนกับเพื่อน ครอบครัว และคนใกล้ตัวด้วย รวมถึงพวกเขาไม่ได้ผูกพันกับบริษัทแบบพนักงานของเรา เรียกง่ายๆ ว่าไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัทหรือสวัสดิการอะไรขององค์กร คำแนะนำของนักบัญชีส่วนใหญ่จึงมีความตรงไปตรงมานั่นเอง
           

     แล้วเราจะหานักบัญชีมืออาชีพแบบนี้ได้จากที่ไหน ?

     การค้นหาข้อมูลจากรีวิวบนโลกออนไลน์เป็นตัวเลือกหนึ่ง แต่ต้องบอกเลยว่าค่อนข้างใช้เวลาและนักบัญชีที่โด่งดังจะมีค่าตัวที่ค่อนข้างสูง ดังนั้น เพื่อลดเวลาในการค้นหา และไม่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไปในช่วงเริ่มต้นธุรกิจ การขอคำปรึกษาจากวิทยากรในงานอบรมต่างๆ ถามเพื่อน หรือเพื่อนร่วมงานที่เราเชื่อถือ เพื่อขอรายชื่อนักบัญชีที่สามารถรับผิดชอบงานให้เราได้ ก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสม          

     เมื่อได้รายชื่อแล้วก็ต้องติดต่อไปเพื่อสอบถามแนวทางการทำงานและบอกให้นักบัญชีคนนั้นๆ ทราบว่าเราต้องการให้เขาช่วยเหลือเรื่องใดบ้าง เขาทำได้และเต็มใจทำหรือไม่ สุดท้ายถ้าเราพบคนที่ใช่ เราจะรู้ได้ด้วยตัวเราเอง 


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup