อยากให้ลูกค้ารักแบรนด์ ไม่เปลี่ยนใจ 5 วิธีนี้ทำได้แน่นอน!
Text : flymetothemoon
Customer Loyalty หรือความจงรักภักดีของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จและสามารถพัฒนาธุรกิจให้ก้าวหน้าได้ ความจงรักภักดีของลูกค้าเป็นสิ่งที่แสดงความเชื่อใจที่มีต่อแบรนด์ หากไม่มีใครเชื่อว่าสินค้าดี มีคุณภาพก็จะไม่มีใครอยากจะซื้อ ส่งผลให้เราไม่ประสบความสำเร็จและยากต่อการเพิ่มฐานลูกค้า ในบทความนี้เลยจะมาแชร์เทคนิคที่จะทำให้เราชนะใจลูกค้า ลูกค้ารัก และภักดีกับแบรนด์
1. รู้ถึงปัจจัยที่จะทำให้ลูกค้าเกิดความรัก ภักดีกับแบรนด์
การจะทำให้ลูกค้ารักและภักดีกับแบรนด์มี 3 ปัจจัยหลักสำคัญ ซึ่งถ้าแบรนด์มี 1 ใน 3 ปัจจัยก็สามารถสร้างความรักและภักดีกับแบรนด์ได้
-ปัจจัยทางด้านการเงิน คือการที่แบรนด์มีราคาที่ถูกที่สุดเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นที่มีประเภทสินค้าเดียวกัน
-ปัจจัยทางด้านจิตใจ คือประโยชน์ของสินค้าและความสุขที่ได้รับจากการซื้อสินค้าของแบรนด์
-ปัจจัยทางด้านคุณค่า คือการที่สินค้ามีความพิเศษเฉพาะตัว ทำให้ลูกค้าสนใจเพราะสินค้าไม่ซ้ำใคร เป็นการหาสิ่งที่คู่แข่งไม่มีจากสินค้าของเรา
2. สร้างแรงดึงดูดที่ไม่เหมือนใครจากปัจจัยที่แบรนด์มี
เมื่อรู้ถึงปัจจัยที่แบรนด์มีแล้วเราก็จะสามารถสร้างแรงกระตุ้นให้ตรงกับปัจจัยและทำให้ลูกค้าเกิดความรักและภักดีกับแบรนด์ได้ เช่นหากลูกค้าของแบรนด์ส่วนใหญ่สนใจซื้อสินค้าของแบรนด์เพราะราคาที่ถูกก็ให้ลองทำโปรโมชั่นลดราคาสินค้าเพื่อที่จะให้ลูกค้าสนใจและกลับมาซื้อสินค้าอีกครั้ง
แต่ถ้าลูกค้าซื้อสินค้าเพราะประโยชน์ของสินค้าและความสุขที่ได้รับจากแบรนด์ ลองสร้างกิจกรรมให้ลูกค้ามีส่วนร่วมเพื่อการได้รับส่วนลดจำนวนมากก็จะยิ่งทำให้ลูกค้าที่ได้รับรู้สึกพิเศษและรักในตัวแบรนด์มากขึ้น
ขณะเดียวกันถ้าส่วนใหญ่ลูกค้าเป็นกลุ่มคนที่ซื้อของที่คุณค่า ความไม่เหมือนใครของแบรนด์ เราสามารถทำของขวัญเป็นของแถมให้ลูกค้า โดยของขวัญที่ให้จะต้องมีความไม่เหมือนใคร อย่างกระเป๋าที่สกรีนโลโก้ของแบรนด์ซึ่งนอกจากจะได้ใจลูกค้าแล้วยังเป็นการโปรโมทสินค้าของแบรนด์อีกด้วย
3. สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า
นอกจากสินค้าที่ต้องมีคุณภาพและไม่เหมือนใคร การบริการก็เป็นสิ่งสำคัญ การสร้างสัมพันธ์เชิงบวกกับลูกค้าอย่างสม่ำเสมอจะทำให้ลูกค้าเชื่อใจและรักในแบรนด์ หมั่นตรวจสอบความพึงพอใจของลูกค้า จัดอบรมให้กับพนักงานเพื่อให้พนักงานมีทักษะในการฟังการตอบที่ดีเพื่อแสดงถึงการเอาใจใส่ลูกค้า การสื่อสารในทิศทางเดียวกันของสินค้า การตลาด และการบริการเพื่อไม่ให้ลูกค้าเกิดความสับสน รวมถึงการไม่โฆษณาเกินจริงเพื่อไม่ให้ลูกค้าที่ได้รับสินค้ารู้สึกผิดหวังและรีวิวในทางที่ไม่ดีต่อแบรนด์ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน
4. กล้าที่จะแสดงจุดยืนของแบรนด์เพื่อสร้างชุมชนที่มีความเชื่อเดียวกัน
คนส่วนใหญ่มักถูกดึงดูดและอยากสนับสนุนบุคคลที่มีความคิดแบบเดียวกับตัวเองโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ผลสำรวจจาก Sprout Social พบว่า 70% ของลูกค้ารู้สึกว่าเป็นสิ่งสำคัญที่แบรนด์จะต้องแสดงจุดยืนและแนวคิดของตน การแสดงจุดยืนของแบรนด์เป็นการแสดงออกถึงแนวคิดของแบรนด์ต่อปัญหาที่มีอยู่ในสังคมแต่ต้องไม่สร้างความแตกแยก เช่น การที่แบรนด์บริจาคเงินให้กับองค์กรที่ทำงานส่งเสริมในเรื่องที่แบรนด์สนับสนุน เป็นต้น
5. ศึกษาและทำความเข้าใจความคิดของผู้คนอยู่เป็นประจำ
เพราะความคิดของคนสามารถเปลี่ยนได้ตลอดเวลา การทำแบบสำรวจเพื่อรับฟ้งความคิดเห็นของลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการทำ Social Listening ซึ่งเป็นการเก็บข้อมูลของผู้บริโภคในโซเชียลมีเดียจึงเป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงการใช้โปรแกรม CRM ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยสรุปข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้าจะช่วยให้เราเข้าใจลูกค้าได้อย่างถูกต้องและสามารถคิดแผนการตลาดได้อย่างถูกจุดและสามารถหาวิธีสร้างความรักและภักดีของลูกค้าได้ การศึกษาวิธีการของคู่แข่งเพื่อนำมาพัฒนาและปรับปรุงวิธีของบริษัทก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน
ที่มา :
https://www.entrepreneur.com/growing-a-business/customer-loyalty-is-your-holy-grail-for-success-heres-why/439289
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup