Digital Marketing

เจาะเทรนด์ Digital Consumers เมื่อออนไลน์จะแซงออฟไลน์ภายใน 6 ปีข้างหน้า

 

     หนึ่งในเทรนด์ที่มาแรงของโลกในตอนนี้คือการใช้จ่ายบนโลกออนไลน์หรือ Digital Consumers ซึ่งครอบคลุมถึงการโฆษณาออนไลน์ ค่าใช้จ่ายด้านการบันเทิงรวมถึงเกมส์ จากสถิติที่เกิดขึ้นบ่งบอกได้ว่า SME จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรับตัวเองให้เข้าสู่การหากรายได้บนโลกออนไลน์เพื่อรองรับกับกระแสหลักของโลก

 

 

     Ark Invest บริษัทจัดการลงทุนระดับโลกได้ออกบทวิเคราะห์มาว่าการใช้จ่ายบนโลกออนไลน์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการโฆษณาต่างๆ การเสพสื่อบันเทิง การสั่งซื้อสินค้า จะมีแนวโน้มเติบโตในอัตราทบต้นเฉลี่ย 18% ต่อปีในช่วง 5 ปีจากนี้ โดยจะมีมูลค่าเพิ่มจาก 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2564 เป็น 4.1 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2569

     ทั้งนี้การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดทั่วโลกได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนทั้งโลกจากออฟไลน์เข้าสู่ออนไลน์มากขึ้นโดยในปี 2564 ผู้คนบนโลกมีการใช้เวลาว่างบนอินเทอร์เนตสัดส่วน 38% และออฟไลน์ 62% แต่ภายใน 6 ปีข้างหน้าหรือ 2570 ตัวเลขสัดส่วนการใช้ชีวิตบนอินเทอร์เนตหรือออนไลน์จะกลับมาสูงกว่าออฟไลน์เป็นครั้งแรกที่สัดส่วน 52:48

 

 

     การขยายตัวของสื่อสังคมออนไลน์หรือ Social Media มีส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้คนหันมาใช้ชีวิตบนออนไลน์มากขึ้น โดยอัตราการเร่งตัวของการเติบโตของผู้ใช้งาน Social Media ที่แตะระดับ 1,000 ล้านคนต่อเดือนถือว่ามีความเร็วขึ้น อย่างเช่น Youtube ใช้เวลา 7.3 ปี,  Facebook ใช้เวลา 8.7 ปี, WhatsApp 7 ปี, WeChat 7.2 ปี, Instagram 7.7 ปี ขณะที่ TikTok ซึ่งเกิดขึ้นเพียง 5.1 ปี แต่สามารถมีผู้ใช้งานแตะ 1,000 ล้านรายแล้ว และยังมีถึง 29 แพลตฟอร์มมีผู้ใช้งานอย่างน้อย 100 ล้านคนต่อเดือน

     ขณะที่การโฆษณาบนออนไลน์ก็เติบโตขึ้นเช่นกันจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด โดยการโฆษณาบนดิจิทัลในช่วงสิ้นปี 2564 มีมูลค่า 440,000 ล้านดอลลาร์ คิดเป็น 62% ของมูลค่าตลาดโฆษณาทั้งหมด แต่คาดว่าภายใน 8 ปีข้างหน้าจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 11% ต่อปี จึงมีโอกาสที่มูลค่าตลาดโฆษณาออนไลน์จะแตะระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์ ภายในปี 2572 ซึ่งจะมาแย่งส่วนแบ่งตลาดการโฆษณาดั้งเดิม

 

 

     ส่วนเทรนด์ใหม่ที่น่าจับตาคือเรื่องของ Social Commerce หรือการผสมผสานระหว่าง Social Media เข้ากับการขายของออนไลน์ ซึ่งคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตต่อปีเฉลี่ย 41% ต่อปีภายใน 5 ปีข้างหน้ามีมูลค่ารวมอยู่ที่ 3.7 ล้านล้านดอลลาร์ และจะมีสัดส่วนคิดเป็น 22% ของมูลค่าตลาด E-Commerce ทั้งหมดในปี 2569 จากปัจจุบันมีสัดส่วน 10%

     เห็นได้ว่าการเกิดแพร่ระบาดของไวรัสโควิดเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้คนทั่วโลกเข้ามาใช้ชีวิตและจับจ่ายซื้อของบนโลกออนไลน์มากขึ้นจนกลายเป็นมาตราฐานใหม่ เป็นหน้าที่ของผู้ประกอบธุรกิจที่จะต้องตามการเปลี่ยนแปลงนี้ให้ทัน

 


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup