Digital Marketing

6 เหตุผล ทำไมธุรกิจควรใช้ Influencer

Text : ประสิทธิ์ วรฉัตราวณิช
ที่ปรึกษา และผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดดิจิทัล และอีคอมเมิร์ซ
 


 
Main Idea
 
  • คอนเทนต์ที่เป็นการรีวิวสินค้าบริการแบบเล่นจริง ใช้จริง และรับประทานกันจริงๆ จากเหล่าบรรดา Influencer กำลังเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การทำโฆษณาที่แบรนด์ต่างๆ ให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ  
 
  • เหตุผลก็คือการเล่าเรื่องด้วยคลิปสั้นๆ ของ Influencer ที่ทดลองใช้งานผลิตภัณฑ์ให้เห็นกันจะๆ ทำให้ผู้บริโภครับรู้ เข้าใจ และตัดสินใจได้ง่ายขึ้นมาก โดยสามารถสรุปข้อดีของการใช้ Influencer ทำการตลาดมีดังนี้
 



     เคยสังเกตไหมว่าการรีวิวสินค้าแบบ ลองจริง ใช้จริง และรับประทานกันจริงๆ จากเหล่าบรรดา Influencer ทำไมถึงได้รับความสนใจมากขึ้นจากผู้ซื้อ

     หนึ่งในกลยุทธ์การทำโฆษณาที่แบรนด์ต่างๆ ให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งในยุคที่ผู้บริโภคลดการเดินทางออกนอกบ้าน (work from home) ทำให้ใช้เวลากับสื่อออนไลน์มากขึ้น โดยเฉพาะคลิปวิดีโอบนยูทูบ ที่นอกจากจะใช้รับชมคอนเทนต์บันเทิงที่สนใจแล้ว คอนเทนต์ที่เป็นการรีวิวสินค้าบริการแบบเล่นจริง ลองจริง ใช้จริง และรับประทานกันจริงๆ จากเหล่าบรรดา Influencer ก็ได้รับความสนใจมากขึ้นด้วยเช่นกัน

     เหตุผลสำคัญก็คือ การรับชมวิดีโอเล่าประสบการณ์จาก Influencer ที่ได้ทดลองใช้สินค้าบริการ ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผลิตภัณฑ์ได้ดีกว่าการอ่านข้อความ หรือภาพถ่าย ที่ยังต้องใช้จินตนาการสร้างภาพในสมอง เพื่อให้เข้าใจได้ว่า สินค้าบริการนั้นๆ ใช้งานอย่างไร ให้ผลลัพธ์อย่างไร และมีอะไรที่ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ ซึ่งการเล่าเรื่องด้วยคลิปสั้นๆ ของ Influencer ที่ทดลองใช้งานผลิตภัณฑ์ให้เห็นกันจะๆ ทำให้ผู้บริโภครับรู้ เข้าใจ และตัดสินใจได้ง่ายขึ้นมาก ยิ่งถ้าเป็น Influencer ตัวจริงที่มีความเป็นเพื่อนกับแฟนคลับที่ติดตามมากกว่าพนักงานขาย ก็ยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ชมที่พร้อมจะถูกคอนเวิร์ทไปเป็นลูกค้าของแบรนด์ได้เร็วขึ้นไปอีก สรุปข้อดีของการใช้ Influencer ทำการตลาดมีดังนี้
 

1. เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ค่อนข้างแม่นยำ

         อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจ หรือแบรนด์ควรเลือก Influencer ที่มีผู้ติดตามที่ตรงกลุ่มเป้าหมายทั้งในส่วนของข้อมูลประชากรศาสตร์ (เพศ อายุ การศึกษา) พฤติกรรม ไลฟ์สไตล์  ความสนใจสินค้า หรือบริการของคุณ ซึ่งรวมถึงตัว Influencer เองด้วย การเลือก Influencer ที่มีความสอดคล้องกับแบรนด์ จะทำให้การนำเสนอสินค้า หรือบริการไปยังกลุ่มแฟนที่ติดตามได้รับความสนใจมากกว่าการเลือกใช้ Influencer ที่มีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก แต่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมของแบรนด์แต่อย่างใด เช่น การใช้ Influencer “สายกิน” ไปรีวิวเครื่องวัดอุตสาหกรรม เป็นต้น
 

2. สร้างความไว้วางใจ และความน่าเชื่อถือได้เร็ว

         อันนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากข้อแรก การเลือก Influencer ที่มีความสนใจสินค้า หรือบริการของแบรนด์ จะทำให้การนำเสนอมีความมั่นใจ ประกอบกับแฟนผู้ติดตามมีความไว้วางใจอยู่แล้ว การที่ Influencer พูดถึงจุดแข็ง ข้อดี หรือข้อมูลที่เป็นบวกของสินค้า จะทำให้ผู้ติดตามเชื่อได้เร็วกว่าแบรนด์พูดเอง หรือโฆษณา
 

3. ช่วยสร้างการรับรู้แบรนด์ในวงกว้าง

         การใช้ Influencer ที่มีกลุ่มผู้ติดตาม ซึ่งรอคอยชมคลิปที่มีการแจ้งเตือนจะทำให้แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตั้งแต่หลักพันยันหลักล้านภายในระยะเวลาอันสั้น โดยแทรฟฟิกของผู้ติดตาม Influencer ในธุรกิจ หรือสินค้าบางประเภท (เสื้อผ้า แฟชั่น ฯลฯ) สามารถคอนเวิร์ทเป็นลูกค้าของแบรนด์ได้สูงถึง 45% เลยทีเดียว

 
4. ค่าใช้จ่ายต่ำกว่าโฆษณา

         กรณีนี้จะหมายถึง การเลือกใช้ “ไมโคร Influencer” (Influencer เบอร์เล็กๆ ที่มีผู้ติดตามหลักร้อยถึงหลักพัน) ซึ่งด้วยงบประมาณก้อนเดียวกันกับ Influencer ที่มีชื่อเสียง ธุรกิจสามารถใช้ไมโคร Influencer ได้หลายราย เพื่อสร้างการรับรู้ หรือถ้าเลือกใช้ไมโคร Influencer ที่กำลังได้รับความนิยม ผลลัพธ์จะคุ้มค่ากว่ามาก นอกจากไมโคร Influencer จะดีลง่ายกว่าแล้ว ยังสามารถตอบรับการทำงานแลกกับสินค้า หรือบริการฟรีได้อีกด้วย
 

5. เกิดยอดขายสินค้าได้เร็วกว่า

         ทันทีที่ Influencer แนะนำสินค้า หรือบริการของธุรกิจ เหล่าสาวกส่วนใหญ่ที่ให้ความไว้เนื้อเชื่อใจในคำแนะนำของพวกเขา กลุ่มนี้จะตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เร็วกกว่าลูกค้าที่เรียนรู้ผลิตภัณฑ์ของคุณผ่านช่องทางอื่นๆ ด้วยเหตุผลที่กล่าวไปข้างต้นว่า ความรู้สึกเป็นมิตรของ Influencer บวกกับข้อมูลที่เห็นภาพชัดเจน เคลื่อนไหว ปราศจากข้อสงสัย แถมด้วยความไว้เนื้อเชื่อถือ รอบการซื้อจึงเกิดขึ้นง่าย และเร็วกว่า
 

6. นักการตลาดได้มีเวลาวางแผน

         แทนที่นักการตลาดต้องมานักคิดคอนเท็นต์โดนๆ ให้ผู้ติดตาม Influencer สามารถรับภาระส่วนนี้ไปจัดการแทนคุณได้เลย เพียงแค่ให้ข้อมูล จุดขาย และสิ่งที่ต้องการเน้นย้ำกับกลุ่มเป้าหมาย ตลอดจนช่องทางที่จะซื้อหาสินค้าบริการ ซึ่งปกติธุรกิจจะมีข้อมูลเหล่านี้อยู่แล้ว ส่งข้อมูลให้ Influencer จัดการ แล้วเอาเวลาที่เหลือไปวางแผนการตลาดด้านอื่นๆ ต่อไปได้เลย การให้อิสระกับ Influence rในการคิดคอนเทนต์ จะทำให้แบรนด์ดูน่าเชื่อถือ และได้รับความไว้วางใจ ตลอดจนการตอบรับจากผู้ติดตามดีกว่าอีกด้วย
 

         เล่ามาซะขนาดนี้ ดูเหมือน Influencer จะเป็นยาวิเศษสำหรับธุรกิจ และนักการตลาดไปเลย ความจริง ข้อเสียของการใช้ Influencer ก็มี เช่น เลือก Influencer ผิดตัว ผิดฝา ไม่เข้าใจสินค้า กลุ่มเป้าหมายไม่ชัดเจน ความชื่นชอบ สนใจของผู้ติดตาม ไม่ได้อยู่ที่เรื่องเล่า แต่เป็นตัว Influencer มากกว่า เมื่อคอนเทนต์จากการเลือกใช้คนผิด แพร่กระจายไปช่องทางต่างๆ ก็เท่ากับความไม่น่าสนใจ (หรือแย่ยิ่งกว่า คือ ความเสียหายของแบรนด์) คูณกับแทรฟฟิกของผู้เข้าชมในทุกช่องทาง เรียกว่า เป็นความเสียหายแบบทวีคูณ นี่ไม่รวมคอมเทนต์ที่ผลิต เนื้อหาละเมิดกฎหมายของการทำโฆษณาอีกต่างหาก เห็นไหมว่า ข้อเสียของ Influencer ส่งผลร้ายแรงกับชื่อเสียงของแบรนด์ และยอดขายแค่ไหน เพราะฉะนั้นกระดุมเม็ดแรกของการใช้ Influencer ก็คือ การเลือกใช้ให้ถูกคน มีกลุ่มเป้าหมายชัดเจน ผลงานเป็นที่ประจักษ์ ก่อนตัดสินใจ



 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup