พันเอกนาฬิกอติภัค แสงสนิท ผู้อำนวยการองค์การบริการการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน(อพท.) เปิดเผยว่า อพท.ประเมินว่า อพท. เตรียมทำแผนยุทธศาสตร์แต่ละพื้นที่พิเศษ โดยเน้นเพิ่มรายได้ให้กับคนในชุมชน รองรับกลุ่มแรงงานที่จะกลับไปประกอบอาชีพในภูมิลำเนาของตัวเอง หลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 300 บาททั่วประเทศ ตั้งแต่ 1 ม.ค. 56 ซึ่งคาดว่าจะมีแรงงานบางส่วนถูกเลิกจ้าง โดยจะเน้นให้คนในชุมชนมีรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งทางตรงและทางอ้อม ตั้งเป้าหมายให้แต่ละชุมชนมีรายได้เติบโต 10% จากปีที่ผ่านมา
พันเอกนาฬิกอติภัค แสงสนิท ผู้อำนวยการองค์การบริการการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน(อพท.) เปิดเผยว่า อพท.ประเมินว่า อพท. เตรียมทำแผนยุทธศาสตร์แต่ละพื้นที่พิเศษ โดยเน้นเพิ่มรายได้ให้กับคนในชุมชน รองรับกลุ่มแรงงานที่จะกลับไปประกอบอาชีพในภูมิลำเนาของตัวเอง หลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 300 บาททั่วประเทศ ตั้งแต่ 1 ม.ค. 56 ซึ่งคาดว่าจะมีแรงงานบางส่วนถูกเลิกจ้าง โดยจะเน้นให้คนในชุมชนมีรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งทางตรงและทางอ้อม ตั้งเป้าหมายให้แต่ละชุมชนมีรายได้เติบโต 10% จากปีที่ผ่านมา
“ถ้าผู้ใช้แรงงานที่มีถิ่นที่อยู่ในพื้นที่พิเศษของ อพท. ประสบปัญหาถูกเลิกจ้าง สามารถเลือกกลับไปพัฒนาพื้นที่ของตัวเองรองรับการท่องเที่ยวยั่งยืนได้ เพราะในพื้นที่มีทรัพยากร และศิลปวัฒนธรรม เป็นเครื่องดึงดูดนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว ขอเพียงนำสิ่งที่มีอยู่มาสร้างมูลค่าเพิ่ม เป็นสินค้าการท่องเที่ยวเท่านั้น ก็จะมีนักท่องเที่ยวต่างถิ่นมา และสร้างรายได้ให้พื้นที่ ในส่วนของอพท. จะเน้นผลักดันเรื่องการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว สร้างระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ปรับปรุงภูมิทัศน์ และสร้างความรู้ด้านการบริหารจัดการการท่องเที่ยวอีกทาง เพื่อสนับสนุนให้เกิดการท่องเที่ยว เกิดการจ้างงานในพื้นที่มากขึ้น”