กรมการค้าต่างประเทศไม่หวั่น อียูจัด GSP สินค้าไทย 3 กลุ่ม เชื่อส่งออกเป็นไปตามเป้า
กรมการค้าต่างประเทศไม่หวั่น อียูจัด GSP สินค้าไทย 3 กลุ่ม เชื่อส่งออกเป็นไปตามเป้า
นางปราณี ศิริพันธ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2555 สหภาพยุโรป (อียู) ได้ออกระเบียบ Commission Implementing Regulation (EU) No 1213/2012 เรื่องการระงับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) เป็นรายหมวดสินค้าจากประเทศไทย 3 หมวดสินค้า ได้แก่ 1.หมวด 4a ได้แก่ Chapter 16 : ของปรุงแต่งจากเนื้อสัตว์ ปลา กุ้ง และสัตว์น้ำ, 2.หมวด 4b ได้แก่ Chapter 17 : น้ำตาล/ขนมที่ทำจากน้ำตาล Chapter 18 : โกโก้ ช็อกโกแลต Chapter 19 : ผลิตภัณฑ์ธัญพืช มอลต์ พาสต้า ขนมปัง Chapter 20 : ผัก ผลไม้ Chapter 21 : อาหารปรุงแต่ง ซอสและของปรุงแต่งสำหรับทำซอสครีม Chapter 22 : เครื่องดื่ม Chapter 23 : อาหารสัตว์ และ 3.หมวด 14 ได้แก่ Chapter 71 : อัญมณีและเครื่องประดับ โดยการระงับสิทธิฯ จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2557 ถึงวันที่ 31 ธ.ค.2559
นางปราณีกล่าวว่า การตัดสิทธิฯ ดังกล่าว ไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าไทย เนื่องจากมั่นใจว่าผู้บริโภคยังคงต้องการสินค้าคุณภาพสูงจากไทย และจะสามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาดในอียูได้
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กรมฯ ได้ประสานความร่วมมือกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตไทย เพื่อเตรียมการรองรับการตัดสิทธิ GSP มาโดยตลอด โดยได้ชี้แนะให้ผู้ส่งออกปรับสายการผลิตสินค้าให้มีความหลากหลาย และพัฒนาคุณภาพสินค้าให้สูงเหนือกว่าประเทศคู่แข่ง พร้อมทั้งเร่งนำผู้ส่งออกสินค้าสำคัญที่คาดว่าจะถูกตัดสิทธิฯ ไปเปิดตลาดใหม่เพื่อลดการพึ่งพาตลาด
สหภาพยุโรป เช่น จีน เกาหลี กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง แอฟริกา และภายในกลุ่มประเทศอาเซียน เป็นต้น
นอกจากนี้ กรมฯ ได้สนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้น เช่น กลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม) เพื่อลดต้นทุนการผลิตและใช้สิทธิ GSP ของประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อสร้างแต้มต่อในการส่งออกไปยังอียู