ออเดอร์ SMEs เริ่มหดต่างชาติเบนเข็มสั่งเพื่อนบ้าน

นายธนิต โสรัตน์ เลขาธิการ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าของสินค้าแบรนด์ดังระดับโลกอย่างแบรนด์เสื้อผ้า รองเท้า ชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ หลายรายเริ่มทยอยไปทำสัญญาในการสั่งผลิตสินค้าในประเทศเพื่อนบ้านอย่าง กัมพูชา เวียดนาม จีน อินเดีย อินโดนีเซีย บังกลาเทศ ฯลฯ เพื่อลดต้นทุนการผลิตสินค้า เนื่องจากต้นทุนการผลิตในไทยมีราคาที่สูงกว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาก โดยเฉพาเรื่องของวัตถุดิบและผลกระทบจากนโยบายค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทต่อวันทั่วประเทศ

 


นายธนิต โสรัตน์ เลขาธิการ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าของสินค้าแบรนด์ดังระดับโลกอย่างแบรนด์เสื้อผ้า รองเท้า ชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ หลายรายเริ่มทยอยไปทำสัญญาในการสั่งผลิตสินค้าในประเทศเพื่อนบ้านอย่าง กัมพูชา เวียดนาม จีน อินเดีย อินโดนีเซีย บังกลาเทศ ฯลฯ เพื่อลดต้นทุนการผลิตสินค้า เนื่องจากต้นทุนการผลิตในไทยมีราคาที่สูงกว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาก โดยเฉพาเรื่องของวัตถุดิบและผลกระทบจากนโยบายค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทต่อวันทั่วประเทศ

นอกจากนี้ยังพบว่าลูกค้าต่างชาติเริ่มลดคำสั่งซื้อสินค้า (ออเดอร์) จากผู้ประกอบการขนาดกลาง และขนาดย่อม(เอสเอ็มอี)ในต่างจังหวัดของไทยลงประมาณ 20% เนื่องจากไม่สามารถต่อรองราคาสินค้าได้ หลังจากที่ต้นทุนการผลิตสินค้าในไทยเริ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ต่างชาติหันไปสั่งออเดอร์จากประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา เวียดนาม และจีน แทนเพราะได้ราคาที่ถูกกว่าไทย

“ค่าแรงในต่างจังหวัดที่เพิ่มขึ้น 40% จากปลายปี’55 รวมถึงต้นทุนวัตถุดิบที่สูง ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตรวมเพิ่มประมาณ 10% ซึ่งที่ผ่านมา SMEs ต่างจังหวัดอยู่ระหว่างการเจรจาต่อรองกับลูกค้าในต่างประเทศเพื่อขอเพิ่มราคาสินค้า หากลูกค้ารายใดยอมก็ถือว่าเป็นเรื่องโชคดี แต่หากลูกค้ารายใดไม่ยอมและหันไปซื้อสินค้าจากเพื่อนบ้านแทน ก็ถือว่า SMEs โชคดีร้ายเพราะจะทำให้รายได้ที่จะนำไปจ่ายค่าจ้างสะดุดลง”  นายธนิต กล่าว

อย่างไรก็ตามหากรัฐบาลไม่เข้ามาดูแล SMEs ในต่างจังหวัดอย่างใกล้ชิดเชื่อว่าในอนาคตจะมี SMEs ต่างจังหวัดทยอยปิดกิจการเพิ่มสูงขึ้น และมีปริมาณการเลิกจ้างเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย

NEWS & TRENDS