เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)ว่า เป็นไปด้วยความวุ่นวาย จากกรณีความขัดแย้งระหว่างสมาชิกฝ่าย นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธาน ส.อ.ท.กับฝ่ายที่ต้องการปลดนายพยุงศักดิ์ ออกจากตำแหน่งในการประชุมกรรมการ ส.อ.ท.เนื่องจากเห็นว่านายพยุงศักดิ์ไม่ใส่ใจดำเนินการช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอีที่ได้รับกระทบจากรัฐบาลปรับขึ้นค่าแรง 300 บาทต้นปีหน้า
เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)ว่า เป็นไปด้วยความวุ่นวาย จากกรณีความขัดแย้งระหว่างสมาชิกฝ่าย นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธาน ส.อ.ท.กับฝ่ายที่ต้องการปลดนายพยุงศักดิ์ ออกจากตำแหน่งในการประชุมกรรมการ ส.อ.ท.เนื่องจากเห็นว่านายพยุงศักดิ์ไม่ใส่ใจดำเนินการช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอีที่ได้รับกระทบจากรัฐบาลปรับขึ้นค่าแรง 300 บาทต้นปีหน้า
ความวุ่นวายดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากที่ นายพยุงศักดิ์ได้ทำหนังสือถึง นายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล กรรมการผู้จัดการบริษัท เอ็น.ซี.ซี.แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ ผู้บริหารศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ขอยกเลิกการจองห้องประชุมมีตติ้งรูม 1-2 สำหรับประชุมคณะกรรมการ ส.อ.ท.และยกเลิกจองห้องประชุมบอร์ดรูม 1 สำหรับการประชุมคณะกรรมการสายงานต่างจังหวัดอย่างไม่มีกำหนด โดยอ้างการชุมนุมทางการเมืองและปัญหาขัดแย้งภายในสอท.
นอกจากนี้นายพยุงศักดิ์ยังแก้เกมด้วยการสั่งให้ติดประกาศและนำเหล็กมากั้นไม่ให้บุคคลเข้าไปใช้พื้นที่ได้ พร้อมกับประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจราว 10 นาย มาดูแลความเรียบร้อย
จากนั้นนายพยุงศักดิ์ใช้ห้องประชุม ส.อ.ท.หารือร่วมกับฝ่ายกฎหมายและสมาชิกที่ส่วนใหญ่มาจากบริษัท ปูนซิเมนต์ จำกัด(มหาชน)เพื่อหาทางตอบโต้ฝ่ายที่ต้องการจะปลดเขาพ้นจาก ส.อ.ท.
ในเวลาต่อมานายพยุงศักดิ์ ได้ออกคำสั่งปรับเปลี่ยนสายงานรับผิดชอบของคณะกรรมการบริหาร ส.อ.ท.ได้แก่ นายธนิต โสรัตน์ รองประธาน ส.อ.ท. สายงานเศรษฐกิจโลจิสติกส์ นายทวีกิจ จตุรเจริญคุณ รองประธาน สายงานแรงงาน นายสุชาติ วิสุวรรณ รองประธานส.อ.ท.อาวุโส สายงานสาอุตสาหกรรมจังหวัด นายสมปอง ผลเจริญจิต รองเลขาธิการ นายอำนาจ นันทหาร รองเลขาธิการ นายสุรินทร์ โกรพินธานนท์ รองเลขาธิการ และนายสิงค์ ตั้งเจริญชัยชนะ รองเลขาธิการ ไปดำรงตำแหน่งประจำสำนักงานประธาน ส.อ.ท.
ขณะเดียวกันได้แต่งตั้งนายทวี ปิยะพัฒนา รองประธานอาวุโส มาดูแลงานสภาอุตสาหกรรมจังหวัด นายวัลลภ วิตนากร รองประธาน ส.อ.ท.ดูแลสายงานแรงงาน และนายเจน นำชัยศิริ รองประธาน ส.อ.ท.ดูแลสายงานเศรษฐกิจ เศรษฐกิจโลจิสติกส์ และสถาบันน้ำเพื่อความยั่งยืน แทนผู้ที่โดนปลดออก โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน รวมทั้งยังออกคำสั่งให้งานบางเรื่องที่อยู่ในอำนาจการดำเนินการของรองประธาน ส.อ.ท.และเลขาธิการ ให้กลับมาเป็นอำนาจของประธาน ส.อ.ท. รวมทั้งให้ผู้อำนวยการใหญ่ และรองผู้อำนวยการใหญ่ มาปฏิบัติงานประจำสำนักงานประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเป็นการชั่วคราว และให้นายไพโรจน์ เกษแม่นกิจ รักษาการแทนผู้อำนวยการใหญ่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
จากนั้นในเวลา 14.00 น. นายกิตติ ตั้งจิตมณีศักดา รองประธาน ส.อ.ท.และประธานคณะกรรมการสายงานกฎหมายและภาษี กล่าวว่า ประธาน ส.อ.ท.มีอำนาจเลื่อนประชุมตามกฎหมาย เพราะเห็นว่าจะทำให้เกิดความขัดแย้ง อยากให้สมาชิกได้มีเวลาไตร่ตรอง เนื่องจากวาระถอดถอนไม่ได้กำหนดไว้ในวาระการประชุมที่ส่งให้สมาชิก นอกจากนี้การเลื่อนประชุมไม่ได้ทำให้หลักเกณฑ์การประชุมเปลี่ยนไป ยืนยันว่าที่ประชุม กส.ไม่สามารถพิจารณาถอดถอนได้ต้องเป็นอำนาจของสมาชิกทั่วประเทศในการประชุมสามัญประจำปีและอำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)ให้ปลดจากตำแหน่ง
จนกระทั่งเวลาประมาณ 15.00 น. นายสมมาต ขุนเศษฐ เลขาธิการ ส.อ.ท.และรองประธานส.อ.ท.ส่วนหนึ่งได้นัดประชุมสมาชิกหน้าห้องมีตติ้งรูม 1-2 โดยให้สมาชิกนั่งบริเวณบันไดหน้าห้อง และให้ลงทะเบียนรายบุคคล จากนั้นได้นับจำนวนผู้ลงทะเบียนพบว่ามีจำนวน 182 คน ซึ่งเกินกึ่งหนึ่งของ กส. คือ 348 คนจึงเปิดการประชุมโดยให้ นายธนิต โสรัตน์ เป็นประธานการประชุมชั่วคราว จากนั้นพิจารณาวาระทั้งสิ้น 7 วาระ โดย 6 วาระแรกเป็นวาระรับทราบ อาทิ การขึ้นค่าแรงของรัฐบาลที่ผ่าน ครม.แล้ว วาระเปิดห้องสมุด
ทั้งนี้ เมื่อถึงวาระที่ 7 ซึ่งเป็นวาระอื่นๆ ประธานอุตสาหกรรม จ.ระนอง ได้เสนอให้ปลดนายพยุงศักดิ์ เพราะไม่สามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายรัฐบาลในการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท ทั้งที่มีเวลาเสนอให้รัฐบาลทบทวนก่อนหน้าหลายเดือน ที่ประชุมรับทราบ เสนอโหวตให้นายพยุงศักดิ์พ้นตำแหน่ง จำนวน 139 คน คิดเป็นมากกว่ากึ่งหนึ่งของเสียงทั้งหมด 182 เสียง ทำให้นายพยุงศักดิ์และกรรมการบริหารรวม 70 คนพ้นจากตำแหน่งทันที
หลังจากนั้น นายทวีกิจ จตุรเจริญคุณ รองประธาน ส.อ.ท.ได้เสนอให้ นายสันติ วิลาสศักดานนท์ อดีตประธาน ส.อ.ท.ซึ่งเคยผลักดันนายพยุงศักดิ์เป็นประธาน ส.อ.ท. ปัจจุบันเป็นกรรมการ ส.อ.ท.ให้ขึ้นเป็นประธาน ส.อ.ท.คนใหม่ โดยที่ประชุมทั้งหมดโหวตเห็นด้วยและปรบมือต้อนรับ จากนั้นนายสมมาตได้รับรองการประชุมครั้งนี้ ทั้งนี้นายสันติจะมีวาระอยู่จนถึงเดือนมีนาคมปี57
นายสันติ กล่าวว่า การกลับมารับตำแหน่งประธาน ส.อ.ท.ถือเป็นวาระที่หนักมากแต่เชื่อว่าจะทำงานในช่วงเวลาที่เหลือ ทั้งนี้จะเดินหน้านโยบายช่วยเหลือสมาชิกในประเด็นที่ได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) และเตรียมพร้อมสมาชิกให้เข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี)ปี 2558
“วันนี้ผมไม่ได้เตรียมตัวเรื่องตั้ง กบ.ขอเวลา เชื่อว่าในเร็วๆ นี้ จะสามารถตั้งกรรมการและเดินหน้านโยบายที่เร่งด่วนได้ ส่วนการที่ฝ่ายกฎหมายของนายพยุงศักดิ์ร้องว่าการประชุมครั้งนี้ไม่ถูกต้อง ก็ต้องให้ฝ่ายกฎหมายของที่ประชุมเป็นผู้ดูรายละเอียด” นายสันติ กล่าว
นายสันติ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม การที่คณะกรรมการ ส.อ.ท. มีมติปลดนายพยุงศักดิ์ ออกจากตำแหน่ง ถือว่าเป็นเรื่องที่ดำเนินการไม่ถูกต้องและเชื่อว่า นายพยุงศักดิ์ คงต้องการยื่นเรื่องให้ศาลในการคุ้มครองต่อไปแต่จะเป็นศาลปกครอง หรือศาลประเภทใดก็ต้องมีการพิจารณาอีกครั้ง
ที่มา : แนวหน้า