บอร์ดเอสเอ็มอีแบงก์ ไฟเขียวสรรหาเอ็มดีใหม่สางหนี้เน่า 2.2 หมื่นล้านบาท ประกาศได้ตัวคนทำงานไม่เกินต้นปีหน้าแน่นอน!!
บอร์ดเอสเอ็มอีแบงก์ ไฟเขียวสรรหาเอ็มดีใหม่สางหนี้เน่า 2.2 หมื่นล้านบาท ประกาศได้ตัวคนทำงานไม่เกินต้นปีหน้าแน่นอน
นายนริศ ชัยสูตร อธิบดีกรมธนารักษ์ ในฐานะประธานกรรมการ ธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ เอสเอ็มอีแบงก์ เปิดเผยว่า คณะกรรมการธนาคารฯ จะประชุมในวันที่ 31 ต.ค.นี้ เพื่อขอความเห็นชอบเกี่ยวกับเงื่อนไข หรือคุณสมบัติในการสรรหากรรมการผู้จัดการเอสเอ็มอีแบงก์คนใหม่ ซึ่งคาดว่าต้นปี 2556 น่าจะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว
สำหรับคุณสมบัติเบื้องต้นจะมีการกำหนดว่า ผู้ที่สนใจสมัครตำแหน่งกรรมการผู้จัดการเอสเอ็มอีแบงก์คนใหม่ ต้องอายุไม่เกิน 58 ปี เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินการธนาคาร เพราะธนาคารมีภารกิจที่ต้องดำเนินการเร่งด่วน 3 เรื่อง คือ การแก้ไขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) การแก้ไขสินทรัพย์รอการขาย (เอ็นพีเอ) และการเร่งปล่อยสินเชื่อใหม่
"กรรมการต้องการให้ธนาคารมีกรรมการผู้จัดการใหม่เร็วที่สุด เพราะมีเรื่องสำคัญให้ดำเนินการตามแผนของคณะกรรมการฟื้นฟูธนาคาร ที่มีแผนการแก้เอ็นพีแอล เอ็นพีเอ และการปล่อยสินเชื่อใหม่ ถือเป็นภารกิจเร่งด่วน เพื่อให้ฐานะธนาคารดีขึ้น" นายนริศ กล่าว
นายนริศ กล่าวอีกว่า ขณะนี้เอ็นพีแอลของธนาคารเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอยู่ที่ระดับ 2.23 หมื่นล้านบาท หรือ 22% ของหนี้ทั้งหมด หากไม่รีบแก้ไขหนี้เอ็นพีแอลอาจเพิ่มถึง 3 หมื่นล้านบาทได้
นอกจากนี้ ธนาคารยังมีปัญหาเงินกองทุนต่อสินทรัพย์ (บีไอเอส) ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 5.6 เท่า ต่ำกว่าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนดที่ระดับ 8.5 เท่า ทำให้ต้องเร่งแก้ไขหนี้เสีย เพิ่มสินเชื่อใหม่ เพื่อให้เงินกองทุนเพิ่มสูงขึ้น โดยที่ไม่ต้องขอเพิ่มทุนจากกระทรวงการคลัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลดำเนินงานของเอสเอ็มอีแบงก์ 8 เดือนแรก มีเงินให้สินเชื่อคงค้างกว่า 8.7 หมื่นล้านบาท มีผลขาดทุนสุทธิ 2,200 ล้านบาท มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอล กว่า 2.2 หมื่นล้านบาท หรือ 22.75% ส่งผลให้เงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (บีไอเอส) ลดลงไปต่ำอยู่ที่ 6.35%.
ที่มา : ไทยโพสต์