รายงานข่าวจากกระทรวงการคลังแจ้งว่า ในปี2555นี้ ลูกค้าของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐได้รับผลกระทบจากอุทกภัยค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับปี 2554 ที่ผ่านมา กระนั้น สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐเองได้ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยทั้งลูกค้าเดิมและประชาชนทั่วไปเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์ดังกล่าวด้วย
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลังแจ้งว่า ในปี2555นี้ ลูกค้าของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐได้รับผลกระทบจากอุทกภัยค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับปี 2554 ที่ผ่านมา กระนั้น สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐเองได้ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยทั้งลูกค้าเดิมและประชาชนทั่วไปเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์ดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ ในปี 2555 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)ได้ทำการขยายเวลาชำระหนี้ โดยไม่คิดอัตราดอกเบี้ยเพิ่ม ส่วนธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) ลดภาระหนี้เงินต้นและอัตราดอกเบี้ย และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) เตรียมดำเนินโครงการยิ้มสู้ฟื้นฟูอาชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยปี 2555 ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ใน 1 เดือน
ขณะที่ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.)หรือเอสเอ็มอีแบงก์ ก็ออกมาตรการพักชำระหนี้เงินต้น และหรืออัตราดอกเบี้ย ตั้งแต่งวดที่ครบกำหนดเป็นเวลา 3 เดือน แต่ไม่เกิน 12 เดือน นอกจากนี้ยังมีวงเงินสินเชื่อฉุกเฉิน ไม่เกิน 500,000 บาทต่อราย สำหรับลูกค้าเดิมและลูกค้าทั่วไปมีระยะเวลากู้ยืมไม่เกิน 5 ปี ระยะเวลาปลอดการชำระคืนเงินต้น 1 ปี ธนาคารออมสินขยายเวลาการชำระหนี้โดยไม่คิดอัตราดอกเบี้ยเพิ่ม ลดหรือยกเว้นค่าประเมินหลักทรัพย์ และบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.)ประกาศขยายเวลาการชำระหนี้
ส่วนในกรณีที่เป็นผู้ประสบอุทกภัยและเป็นลูกค้าของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) นั้นขอให้ติดต่อสถาบันการเงินโดยตรงเพื่อหารือถึงแนวทางการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนต่อไป
ที่มา : แนวหน้า