นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)รายงานที่ประชุมว่า เมื่อรวมมาตรการ QE3 ของสหรัฐฯกับความคืบหน้าในการแก้ปัญหาของสหภาพยุโรป ได้ช่วยลดความเสี่ยงจากภาวะความถดถอยของเศรษฐกิจโลก รวมทั้งสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย และแม้ว่า QE3 มีแนวโน้มทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่า
นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)รายงานที่ประชุมว่า เมื่อรวมมาตรการ QE3 ของสหรัฐฯกับความคืบหน้าในการแก้ปัญหาของสหภาพยุโรป ได้ช่วยลดความเสี่ยงจากภาวะความถดถอยของเศรษฐกิจโลก รวมทั้งสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย และแม้ว่า QE3 มีแนวโน้มทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่า
แต่คาดว่าไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยโดยรวมที่ไม่อ่อนไหวต่ออัตราแลกเปลี่ยนมากนัก แต่จะอ่อนไหวต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจคู่ค้าเป็นหลัก แต่ต้องระวังผลกระทบจะเกิดกับภาคการผลิตที่มีรายรับส่วนใหญ่เป็นเงินตราต่างประเทศ แต่มีต้นทุนส่วนใหญ่เป็นเงินบาท และภาคการผลิตและส่งออกซึ่งแข่งขันโดยตรงกับประเทศที่ใช้อัตราแลกเปลี่ยนคงที่
อย่างไรก็ตาม การลดลงของความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกเป็นการเปิดโอกาสให้การบริหารเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี2555 และปี 2556 ให้น้ำหนักความ
สำคัญกับการแก้ปัญหาอื่นๆ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาและลดผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม ทั้งการดูแลประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน การดูแลป้องกันและลดผลกระทบผู้ประกอบการเพื่อป้องกันการลดกำลังการผลิต ตลอดจนการระวังปัญหาราคาสินค้า โดยเฉพาะพืชผัก อาหาร วัสดุก่อสร้าง นอกจากนี้ ต้องดูแลภาคการผลิตเพื่อการส่งออกที่ใช้แรงงานสูง ซึ่งมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจากการแข็งค่าของเงินบาท และเร่งรัดโครงการลงทุนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ขยายตัวในช่วงเศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะอ่อนตัว
"ทางธปท.รายงานในที่ประชุมด้วยว่าการออกมาตรการ QE 3ทำให้เศรษฐกิจของสหรัฐในปีนี้ขยายตัวดีขึ้น แต่ไม่เกิน 1%และเศรษฐกิจทั้งสหรัฐฯและสหภาพยุโรปจะดีขึ้นในไตรมาส 2 ปี 2556ส่วนเศรษฐกิจจีนในปีนี้จะขยายตัว 8%ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะช่วยผลักดันเศรษฐกิจไทยและอาเซียน"