ครม.ไฟเขียวลดภาษีนิติบุคคล 1 ม.ค. 56

ครม.ไฟเขียวลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจากร้อยละ23เหลือร้อยละ20 มีผล1ม.ค.2556

 

ครม.ไฟเขียวลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจากร้อยละ 23 เหลือร้อยละ 20 มีผล 1 ม.ค. 2556

นางสาวศันสนีย์ นาคพงศ์  โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 530) พ.ศ. 2554) ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
 
  ทั้งนี้ เนื่องจากในระหว่างรอบระยะเวลาบัญชีตามพระราชกฤษฎีกาในข้อ 1. บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลอาจมีรอบระยะเวลาบัญชีเกินกว่าหนึ่งรอบระยะเวลาบัญชีในช่วงระยะเวลาระหว่างวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2555 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2555 และมีรอบระยะเวลาบัญชีเกินกว่าสองรอบระยะเวลาบัญชีในช่วงระยะเวลาระหว่างวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2556 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557 จึงทำให้นิติบุคคลดังกล่าวไม่สามารถได้รับสิทธิประโยชน์ในการลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย  จึงจำเป็นต้องปรับปรุงพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 530) พ.ศ. 2554 โดยไม่ต้องกำหนดจำนวนรอบระยะเวลาบัญชีที่จะได้รับสิทธิประโยชน์  และปรับปรุงการลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลของรัฐวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมให้สอดคล้องกันด้วย
 
 สำหรับสาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกา
 
 1. กำหนดให้ลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลและคงจัดเก็บในอัตราดังต่อไปนี้
 
  1.1 ร้อยละ 23 ของกำไรสุทธิของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2555 แต่ไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 

2555
 
  1.2 ร้อยละ 20 ของกำไรสุทธิของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2556 แต่ไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 

2557
 
 2. กำหนดให้ลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งมีทุนที่ชำระแล้วในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 5 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการในรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 30 ล้านบาท สำหรับกำไรสุทธิในส่วนที่เกิน 1 ล้านบาท ดังต่อไปนี้
 
  2.1 ร้อยละ 23 ของกำไรสุทธิ สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2555 แต่ไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2555
 
  2.2 ร้อยละ 20 ของกำไรสุทธิ สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2556 เป็นต้นไป
 
 
        ทั้งนี้ ให้ใช้บังคับสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2555 เป็นต้นไป

 

NEWS & TRENDS