รัฐเตรียมความพร้อม 6 ด้านพัฒนาธุรกิจเอสเอ็มอีรับเปิดเออีซี เพิ่มลดหย่อนภาษีวิจัยและพัฒนาเพิ่ม 3 เท่า
รัฐเตรียมความพร้อม 6 ด้านพัฒนาธุรกิจเอสเอ็มอีรับเปิดเออีซี เพิ่มลดหย่อนภาษีวิจัยและพัฒนาเพิ่ม 3 เท่า
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวปาฐกถาหัวข้อ "โครงสร้างการบริหารจัดการภาครัฐด้านเอสเอ็มอีพร้อมรับเออีซี" ในงานสัมมนาโอกาสและทางรอดเอสเอ็มอีสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ว่า รัฐบาลจะมุ่งสร้างความพร้อมให้กับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ก่อนเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) 6 ด้าน ประกอบด้วย เข้าถึงแหล่งเงินทุน การพัฒนาคน บริหารจัดการวัตถุดิบ ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา ลดต้นทุนด้านขนส่ง และการพัฒนาตลาด
สำหรับการส่งเสริมการนำงานวิจัยไปใช้ในภาคธุรกิจ รัฐบาลพร้อมรับข้อเสนอของภาคเอกชนในการเพิ่มหลักลดหย่อนค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับงานวิจัย จาก 2 เท่าของค่าใช้จ่าย เป็น 3 เท่า โดยที่รัฐไม่ได้เสียเม็ดเงินรายได้ เนื่องจากปีหน้าภาษีนิติบุคคลจะลดเหลือ 20% ภาษีที่ลดหย่อนเท่ากับ 2 เท่าของอัตราภาษี 30% ก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม ก่อนจะดำเนินการลดหย่อน จะต้องมีองค์กรที่รับขึ้นทะเบียนงานวิจัยโดยเฉพาะ ซึ่งมองว่า น่าจะเป็น สำนักงานกองทุนสนับสนุนงานวิจัย (สกว.) ที่จะเข้ามารับผิดชอบ เพื่อให้กรมสรรพากรตรวจสอบภาษีได้สะดวกขึ้น
นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า ส่วนแนวทางปรับเพิ่มค่าแรง 300 บาททั่วประเทศในปีหน้า ยอมรับว่า จะกระทบต้นทุนของผู้ประกอบการบ้าง แต่ก็ถึงเวลาแล้วที่จะต้องยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ขณะเดียวกันให้มีผลเท่าเทียมกันทั้งค่าแรงงานไทยและต่างด้าว เพราะการเข้ามาทำงานในประเทศไทยถือเป็นส่วนหนึ่งในการมีส่วนร่วมพัฒนาประเทศ ประกอบ
กับคนไทยไม่ค่อยทำงานที่เป็นแรงงานไร้ฝีมือแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของนายจ้างต้องปรับตัวรองรับต้นทุนค่าแรง ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพของแรงงานให้คุ้มค่าจ้าง ไปพร้อมๆกับการเพิ่มคุณภาพสินค้า โดยนายจ้างต้องคำนึงด้วยว่า การเพิ่มค่าแรงเป็นการเพิ่มกำลังซื้อในประเทศ ซึ่งมีส่วนช่วยให้ยอดขายของกิจการดีขึ้นตามไปด้วย
ที่มา : โพสต์ทูเดย์