รมว.อุตฯเผยเอสเอ็มญี่ปุ่น เมืองไซตามะ สนย้ายฐานผลิตมาไทย หลังญี่ปุ่นมีปัญหาค่าแรงและต้นทุนสูง
รมว.อุตฯเผยเอสเอ็มญี่ปุ่น เมืองไซตามะ สนย้ายฐานผลิตมาไทย หลังญี่ปุ่นมีปัญหาค่าแรงและต้นทุนสูง
ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับนายคิโยชิ อูเอดะ ผู้ว่าราชการจังหวัดไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น และคณะ เมื่อวันที่ 23 ส.ค.2555 ว่า นายอูเอดะได้แจ้งถึงแนวโน้มผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ของจังหวัดไซตามะสนใจที่จะมาตั้งฐานการผลิตในไทยตามนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมให้เอสเอ็มอีออกไปลงทุนยังต่างประเทศมากขึ้น ดังนั้น ทิศทางเอสเอ็มอีของญี่ปุ่นจะย้ายฐานการผลิตมายังไทยอีกจำนวนมากในอนาคตอันใกล้นี้
ทั้งนี้ ภาพรวมของญี่ปุ่นขณะนี้มีปัญหาเรื่องค่าจ้างแรงงานและต้นทุนที่สูงขึ้น จึงต้องส่งเสริมให้มีการย้ายฐานการผลิตไปยังต่างประเทศ เช่นเดียวกับจังหวัดไซตามะ ซึ่งปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศหรือจีดีพีใหญ่เป็นอันดับ 5 ของญี่ปุ่น มีอุตสาหกรรมหลักๆ จะเป็นยานยนต์และอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง ทำให้เอสเอ็มอีค่อนข้างมีเทคโนโลยีที่สูง ซึ่งอุตสาหกรรมที่ญี่ปุ่นสนใจจะเข้ามาลงทุนในไทยได้แก่ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องสำอาง และอุตสาหกรรมเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์
ด้านนางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า ญี่ปุ่นได้เข้ามาลงทุนในไทย 7 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ค.2555) เทียบกับ 7 เดือนของปีที่แล้วพบว่าจำนวนโครงการและมูลค่าเพิ่มขึ้นนับเท่าตัว โดยมีการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุน 474 โครงการ จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีเพียง 312 โครงการ มูลค่าเพิ่มสูงถึง 2.1 แสนล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนมีมูลค่า 9.7 หมื่นล้านบาทเท่านั้น บ่งชี้ว่าญี่ปุ่นยังคงเลือกไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญ