ส.โรงแรมไทยรุดหารือกระทรวงพาณิชย์ เตรียมกำหนดหลักเกณฑ์เงื่อนไขการลงทุนในธุรกิจโรงแรม หวังสร้างเกราะป้องเอสเอ็มอีไทยให้อยู่รอด หลังเปิดเออีซี
ส.โรงแรมไทยรุดหารือกระทรวงพาณิชย์ เตรียมกำหนดหลักเกณฑ์เงื่อนไขการลงทุนในธุรกิจโรงแรม หวังสร้างเกราะป้องเอสเอ็มอีไทยให้อยู่รอด หลังเปิดเออีซี
นายสัมพันธ์ แป้นพัฒน์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านกฏหมาย สมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) กล่าวว่า ขณะนี้ทางสมาคมฯ อยู่ระหว่างการหารือกับกระทรวงพาณิชย์ถึงการวางเงื่อนไขการลงทุนของผู้ประกอบการโรงแรมข้ามชาติที่สนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ในปี 2558
โดยมีจุดประสงค์เพื่อช่วยให้ธุรกิจโรงแรม กลุ่มผู้ลงทุนรายกลางและรายย่อยของประเทศไทย หรือเอสเอ็มอี ยังสามารถดำเนินธุรกิจอยู่ได้แม้จะเปิดเออีซีแล้วก็ตาม เพราะปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีเงื่อนไขใดๆ นอกจากเม็ดเงินที่จะลงทุนเท่านั้น ตรงนี้อาจทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของประเทศไทยเสียเปรียบทางการแข่งขันได้
“ภายหลังเปิดเออีซีทุกอย่างต้องเสรีตามเงื่อนไขของเออีซี แต่เราก็สามารถสร้างเกณฑ์มาตรฐานขึ้นมาเป็นกำแพงเล็กๆ ไว้ป้องกันผู้ประกอบการกลุ่มเอสเอ็มอีอีกทีได้เช่นกัน ระหว่างนั้นก็ต้องเร่งพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้แข็งแกร่ง พร้อมแข่งขันได้ ส่วนผู้ประกอบการรายใหญ่ อย่างเครือโรงแรมดุสิตธานี กลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา หรือซีพีเอ็น และแม้แต่กลุ่มไมเนอร์กรุ๊ปเราไม่ค่อยเป็นห่วง เพราะผู้ประกอบการายใหญ่กลุ่มนี้นอกจากแข็งแรงพอตั้งรับ ยังทำธุรกิจเชิงรุกได้ดีอีกด้วย”
เบื้องต้นในส่วนของสมาคมโรงแรม หากร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการจดทะเบียนธุรกิจโรงแรมที่ผ่อนปรนเงื่อนไขให้โรงแรมที่ไม่สามารถจดทะเบียนได้ในอดีต เข้ามาจดทะเบียนได้ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ทางสมาคมก็จะรีบจัดโครงการฝึกอบรมผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยเน้นที่ความรู้ด้านโครงสร้างการบริหารจัดการ ตลอดจนโครงการฝึกอบรมฝีมือแรงงานให้แก่บุคลากร
โดยกลุ่มที่สมาคมเป็นห่วงมากที่สุดคือผู้ประกอบการรายเล็กทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ส่วนจังหวัดที่เป็นเกตเวย์ติดต่อชายแดนไม่ห่วงมากนัก เพราะกลุ่มนี้จะชินกับการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศอยู่แล้ว
สำหรับความคืบหน้าการออกกฎกระทรวงว่าด้วยการจดทะเบียนธุรกิจโรงแรม ล่าสุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้เซ็นอนุมัติเรียบร้อยแล้ว วิธีการจากนี้คือนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมอาคารเพื่อทราบ จากนั้นนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการกฎหมายการท่องเที่ยว กระทรวงมหาดไทย เพื่อพิจารณาก่อนส่งต่อให้กฤษฎีกาตีความ ก่อนออกประกาศใช้เป็นกฎกระทรวงออกตามความใน พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร รวมกระบวนการทั้งหมดที่กล่าวมามั่นใจว่าจะประกาศใช้ได้ในเดือนตุลาคมศกนี้ เชื่อว่าจะมีผู้ประกอบการโรงแรมทยอยเข้ามาจดทะเบียนจำนวนมาก ในที่นี้ 80% จะเป็นผู้ประกอบการกลุ่มเอสเอ็มอีแน่นอน
โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอต่อคณะกรรมการบริหารสมาคมโรงแรมไทยว่าควรมีการปรับโครงสร้างอัตราค่าธรรมเนียมสมาชิก จากปัจจุบันจะเก็บค่าธรรมเนียมรายปีเท่ากันทุกโรงแรม คือ 3 พันบาท และค่าธรรมเนียมรายห้อง ซึ่งโรงแรมที่ห้องเยอะก็จ่ายมาก ดังนั้นจึงเห็นสมควรลดค่าธรรมเนียมรายปี โดยแบ่งเป็นเหรดราคาว่าโรงแรมขนาดใหญ่ก็ต้องเสียมากกว่าโรงแรมขนาดเล็กเพื่อความยุติธรรม