สศช.เสนอประเด็นบริหารเศรษฐกิจ แนะเร่งฟื้นตัวภาคการผลิตโดนน้ำท่วม เร่งเบิกจ่ายงบประมาณ และช่วยเอสเอ็มอีโดนผลกระทบนโยบายขึ้นค่าจ้าง
สศช.เสนอประเด็นบริหารเศรษฐกิจ แนะเร่งฟื้นตัวภาคการผลิตโดนน้ำท่วม เร่งเบิกจ่ายงบประมาณ และช่วยเอสเอ็มอีโดนผลกระทบนโยบายขึ้นค่าจ้าง
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) กล่าวว่า สศช.ได้เสนอประเด็นการบริหารนโยบายเศรษฐกิจมหภาคในช่วงที่เหลือของปี ความล่าช้าในการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรม ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยในครึ่งปีแรกขยายตัวต่ำกว่าศักยภาพ ในขณะที่การฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมและการขยายตัวทางเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังยังมีข้อจำกัดจากเงื่อนไข ด้านเศรษฐกิจโลกที่ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างช้า ๆ และยังมีความเสี่ยงที่จะผันผวน แนวโน้มดังกล่าวทำให้การขับเคลื่อนการขยายตัวทางเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังยังต้องพึ่งพิงอุปสงค์ในประเทศ ดังนั้นการบริหารนโยบายเศรษฐกิจจึงควรให้ความสำคัญกับ
1.เร่งรัดการฟื้นตัวของภาคการผลิตที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยเพื่อให้สามารถกลับมาใช้กำลังการผลิตได้อย่างเต็มศักยภาพ รวมทั้งสร้างความมั่นใจในเรื่องความ
ปลอดภัยจากปัญหาน้ำท่วม เพื่อให้ผู้ประกอบการมั่นใจและใช้กำลังการผลิตจากฐานการผลิตในประเทศไทยอย่างเต็มที่
2.เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการดำเนินการตามโครงการลงทุนสำคัญ ๆ ของภาครัฐโดยเฉพาะโครงการภายใต้แผนบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในระยะเร่งด่วนเพื่อใช้ประโยชน์จากการขยายตัวของรายจ่ายภาครัฐในการชดเชยการชะลอตัวของภาคการส่งออก สร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ประกอบการ รวมทั้งการเร่งรัดโครงการลงทุนสำคัญอื่น ๆ ของรัฐวิสาหกิจ
3.ดำเนินนโยบายการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่แรงกดดันด้านเงินเฟ้ออยู่ในภาวะผ่อนคลาย ในช่วงครึ่งปีหลังการขยายตัวทางเศรษฐกิจยังต้องพึ่งพิงแรงขับเคลื่อนจากการขยายตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ อีกทั้งการขยายตัวของภาคการส่งออกในช่วงเศรษฐกิจโลกชะลอตัวยังต้องได้รับปัจจัยสนับสนุนจากขีดความสามารถในการแข่งขันด้านราคาและเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยน
4.ดูแลและช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการการปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำ โดยเฉพาะในผู้ประกอบการ SME ที่ใช้แรงงานเข้มข้น โดยการเร่งรัดประชาสัมพันธ์ให้มีการใช้ประโยชน์จากมาตรการช่วยเหลือ SME เพื่อลดแรงกดดันด้านต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการและสนับสนุนการยกระดับประสิทธิภาพการผลิต รวมทั้งการพิจารณามาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการที่ไม่อยู่ในข่ายที่จะได้รับประโยชน์จากมาตรการดังกล่าว และการเตรียมการเพื่อช่วยเหลือแรงงานที่ถูกเลิกจ้างและลดชั่วโมงการทำงานในช่วงของการปรับตัว