กสอ.แนะเอสเอ็มอีเร่งรวมกลุ่มคลัสเตอร์เพื่อเสริมศักยภาพสู้เออีซี และสินค้าจีน เวียดนาม ชี้ถือเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งเพราะเอสเอ็มอีมีจุดด้อยหลายประการ
กสอ.แนะเอสเอ็มอีเร่งรวมกลุ่มคลัสเตอร์เพื่อเสริมศักยภาพสู้เออีซี และสินค้าจีน เวียดนาม ชี้ถือเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งเพราะเอสเอ็มอีมีจุดด้อยหลายประการ
นายพสุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กล่าวว่า เอสเอ็มอีไทยมีจุดด้อยหลายประการ ทั้งขีดความสามารถการแข่งขัน เงินทุน และกำลังผลิต ฯลฯ ดังนั้น แนวทางในการเพิ่มศักยภาพให้แข่งขันกับผู้ประกอบการรายใหญ่ และคู่แข่งจากต่างประเทศได้ จำเป็นที่ต้องให้เกิดการรวมกลุ่มคลัสเตอร์ระหว่างผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั้งในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เพื่อจะแลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ ตลอดจนทรัพยากรต่างๆ ระหว่างกัน
ในส่วนของ กสอ. ได้ดำเนินโครงการพัฒนาการรวมกลุ่มและเชื่อมโยงอุตสาหกรรม หรือคลัสเตอร์มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 จนถึงปัจจุบัน เกิดการรวมกลุ่มคลัสเตอร์แล้วมากกว่า 50 กลุ่มอุตสาหกรรมกระจายอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ
ฉะนั้น ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต้องเร่งสร้างโอกาสในการรวมกลุ่มคลัสเตอร์ที่เป็นรูปธรรม เพราะจะเป็นเครื่องมือและกลไกสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ซึ่งนับว่าจำเป็น เพราะการแข่งขันในตลาดสูงขึ้นต่อเนื่อง ทั้งจากประเทศจีน เวียดนามที่นำสินค้าราคาถูกมาตีตลาด และการเปิด AEC ในปี 2558 จะผลักดันให้การแข่งขันสูงขึ้นไปอีก โดยผู้ที่อยู่ในคลัสเตอร์จะต้องมีการวางแผน กำหนดเป้าหมาย และกลยุทธ์ในการพัฒนาร่วมกัน รวมถึง แชร์ความสามารถกันในหมู่สมาชิกคลัสเตอร์
นอกจากนี้ เพื่อสนับสนุนกลุ่มคลัสเตอร์ต่างๆ ทาง กสอ.ได้จัดกิจกรรม “CLUSTER DAY” ระหว่างวันที่ 26-29 มิ.ย.นี้ ณ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อจัดแสดงและขายสินค้าของสมาชิกกลุ่มคลัสเตอร์ต่างๆ 19 กลุ่ม กว่า 68 ราย เพื่อช่วยเปิดช่องทางตลาดใหม่ ขยายช่องทางจำหน่าย รวมถึงเป็นโอกาสให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มคลัสเตอร์ต่างๆ นอกจากนั้นยังเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการได้พบกับผู้บริโภคโดยตรงเพื่อจะรับทราบความคิดเห็นสำหรับนำไปปรับปรุงสินค้าและบริการต่อไป