สสว.เตรียมทำแผนดึงเอสเอ็มอีนอกระบบ หรือ ผู้ประกอบการรายใหม่ เข้าจดทะเบียนนิติบุคคล เพื่ออีก 2.5 แสนรายภายในปี 59 ด้านแบงก์ธนชาติชักธงรบประกาศดึงลูกค้แบงก์รวงข้าว-ใบโพธิ์
สสว.เตรียมทำแผนดึงเอสเอ็มอีนอกระบบ หรือ ผู้ประกอบการรายใหม่ เข้าจดทะเบียนนิติบุคคล เพื่ออีก 2.5 แสนรายภายในปี 59 ด้านแบงก์ธนชาติชักธงรบประกาศดึงลูกค้แบงก์รวงข้าว-ใบโพธิ์
นายภักดิ์ ทองส้ม รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า สสว.อยู่ระหว่างจัดทำแผนในการดึงธุรกิจเอสเอ็มอีจากนอกระบบ หรือผู้ประกอบการรายใหม่
เข้ามาจดทะเบียนนิติบุคคลให้ถูกต้องเพิ่มอีก 250,000 รายภายในปี 2559 ตามเป้าหมายของยุทธศาสตร์แผนการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมฉบับที่ 3 (2555-59) เนื่องจากปัจจุบันมีเอสเอ็มอี
เข้ามาจดทะเบียนน้อยมาก หากเปรียบเทียบกับปริมาณเอสเอ็มอีทั่วประเทศกว่า 2.9 ล้านราย เพราะส่วนใหญ่ต้องการทำธุรกิจด้วยตนเองและไม่อยากให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามายุ่งเกี่ยว
นอกจากนี้ จะพัฒนาขีดความสามารถการแข่งขันในเชิงลึกแก่เอสเอ็มอีไม่น้อยกว่า 30,000 รายในปี 2559 และสร้างเครือข่ายเอสเอ็มอีที่ได้รับการพัฒนาให้มีความเข้มแข็งไม่น้อยกว่า 60 เครือข่ายต่อปี เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี)
ส่วนสถานการณ์ในกลุ่มสินเชื่อเอสเอ็มอีเวลานี้ นายจิรัชยุติ์ อัมยงค์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารธนชาติ ได้ออกมาประกาศว่า มีแผนดึงลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอีจากธนาคารกสิกรไทยและไทยพาณิชย์ มาเป็นลูกค้าธนาคาร เนื่องจากเป็นลูกค้าชั้นดี โดยใช้ระบบการอนุมัติสินเชื่อใหม่ ผ่านระบบเครดิตสกอริ่งซึ่งกำลังทดสอบระบบใน 10 สาขาก่อน และจะขยายทั่่วประเทศในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้
สำหรับระบบดังกล่าวจะทำให้ธนาคารมีความรวดเร็วในการวิเคราะห์ความสามารถชำระหนี้ของลูกค้าได้รวดเร็วภายใน 6 ชั่วโมง และอนุมัติวงเงินพร้อมเบิกใช้ภายใน 3-5 วัน ต่างจากคู่แข่งที่ใช้เวลาราว 7 วัน ซึ่งระบบจะช่วยทดแทนการแข่งขันด้านราคาหรืออัตราดอกเบี้ย เพราะลูกค้าจะให้ความสำคัญกับรูปแบบบริการที่รวดเร็วและยอดเงินที่ต้องผ่อนชำระต่อเดือนมากกว่า โดย 2 เดือนที่ผ่านมา ธนาคารมียอดอนุมัติลูกค้าประเภทนี้แล้ว 2,000 ล้านบาท โดยมีลูกค้าที่ถูกคู่แข่งแย่งไปลดลงเหลือ 60-70 ล้านบาทต่อเดือน ลดลงจากปีก่อนที่อยู่ 400-500 ล้านบาทต่อเดือน