ส.อ.ท. หวั่นใจเอสเอ็มอีด้านผลิตหนีขึ้นสู้ตลาดระดับกลาง ระดับบนไม่ไหว อาจม่องเท่ง หรือหันไปเป็นเทรดเดอร์แทน ด้านปัญหาขาดแรงงานเริ่มลดลง หลังออเดอร์ต่างชาติหด ผลพวงจากเศรษฐกิจยุโรปทรุด
ส.อ.ท. หวั่นใจเอสเอ็มอีด้านผลิตหนีขึ้นสู้ตลาดระดับกลาง ระดับบนไม่ไหว อาจม่องเท่ง หรือหันไปเป็นเทรดเดอร์แทน ด้านปัญหาขาดแรงงานเริ่มลดลง หลังออเดอร์ต่างชาติหด ผลพวงจากเศรษฐกิจยุโรปทรุด
นายพากร วังศิลาบัตร รองประธานสายงานแรงงาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ตกต่ำ ทำให้การสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศถูกกำหนดราคามาให้ผลิตมากขึ้น ซึ่งพบว่าหลายสินค้าของไทยไม่สามารถรับราคาดังกล่าวได้ ทำให้บางส่วนเสียตลาดไปให้กับจีน เวียดนาม ที่มีต้นทุนต่ำกว่า โดยต้นทุนส่วนหนึ่งของไทยที่สูงขึ้นมาจากผลกระทบการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท
ในส่วนของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีปัญหาเรื่องการผลิต จนจำเป็นต้องปรับตัวไปสู่ตลาดระดับกลางและบน โดยการสร้างแบรนด์เป็นของตัวเองและมองหาตลาดใหม่ๆ ซึ่งแนวทางนี้จะต้องใช้เวลามาก และไม่ง่ายนักจึงน่าเป็นห่วงมากสุด หากปรับตัวไม่ได้ก็ต้องปิดตัวเองไป หรือบางส่วนก็หันไปเป็นเทรดเดอร์แทน
ในส่วนปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคอุตสาหกรรมเวลานี้เริ่มลดลง หลังโรงงานหลายแห่งเริ่มชะลอการรับคนเพิ่ม เนื่องจากคำสั่งซื้อจากต่างประเทศภาพรวมเริ่มชะลอตัว จากผลพวงภาวะเศรษฐกิจยุโรปและสหรัฐที่ยังคงมีปัญหา โดยคำสั่งซื้อโดยรวมลดลงเฉลี่ย 20-30%
ทั้งนี้ โรงงานที่ประสบภาวะน้ำท่วมหลายแห่ง กำลังฟื้นตัว แต่ต้องเจอกับคำสั่งซื้อที่ลดลง เช่น อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ที่ลดลง 20-30% ซึ่งมีเพียงอุตสาหกรรมยานยนต์หลักๆ ที่ยังคงมีการเติบโตเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าโรงงานจะกลับมาฟื้นตัวได้ 100% ในไตรมาส 4 ทำให้การส่งออกของไทย หากจะให้โตตามเป้าหมาย 15% คงเป็นไปได้ยาก