ส่งออกหด เม.ย. ขาดดุลเฉียดหมื่นล้าน

กระทรวงพาณิชย์รายงานมูลค่าการส่งออกของไทยเดือนเมษายนอยู่ที่ 16.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หดตัว 3.7% YOY (เทียบกับเดือนเดียวกันในปีก่อนหน้า) ขณะที่มูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ 19.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งขยายตัว 7.8%YOY ส่งผลให้ไทยขาดดุลการค้า 2.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

                                               


กระทรวงพาณิชย์รายงานมูลค่าการส่งออกของไทยเดือนเมษายนอยู่ที่ 16.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หดตัว 3.7% YOY (เทียบกับเดือนเดียวกันในปีก่อนหน้า) ขณะที่มูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ 19.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งขยายตัว 7.8%YOY ส่งผลให้ไทยขาดดุลการค้า 2.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 

ทั้งนี้ ราคาส่งออกสินค้าเกษตรตกต่ำต่อเนื่อง  มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรลดลง 11.6% YOY ส่วนหนึ่งเป็นเพราะราคาสินค้าเกษตรกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ยางพาราและมันสำปะหลัง ลดลงมากเมื่อเทียบกับช่วงต้นปีที่แล้ว นอกจากนี้ มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรยังได้รับผลกระทบจากปริมาณการส่งออกข้าวโดยรวมที่ลดลงราว 43% อีกด้วย

สำหรับการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมยังคงหดตัว  มูลค่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมลดลง 5.8% YOY ส่วนหนึ่งเป็นเพราะภาคการผลิตยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ และการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกุล่มประเทศสหภาพยุโรป เห็นได้จากการส่งออกไปยุโรปยังคงหดตัวต่อเนื่องราว 12.5% YOY โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าจำพวกอัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องปรับอากาศ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น แต่อย่างไรก็ดีการส่งออกไปยังประเทศอาเซียนยังคงขยายตัวได้ดีราว 6.7%YOY

ในส่วนของการนำเข้าสินค้าทุนยังขยายตัวสูง การนำเข้าสินค้าทุนในเดือนเมษายนขยายตัวถึง 23.1%YOY หลังจากที่ขยายตัว 12.6% ในไตรมาสแรก การผลิตภาคอุคสาหกรรมยังคงเร่งนำเข้าเครื่องจักรและชิ้นส่วนประกอบบ่งบอกว่าผลผลิตอุตสาหกรรมมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ต่อไป

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเดือนเมษายนนี้ การนำเข้าทองคำและน้ำมันดิบจะไม่สูงมากเท่ากับเดือนที่ผ่านมา แต่การส่งออกที่หดตัวประกอบกับการนำเข้าที่ขยายตัว ทำให้ยังมีการขาดดุลการค้าค่อนข้างสูง
ราว 2.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วผู้ส่งออกจำเป็นต้องหาตลาดส่งออกมาทดแทนยุโรป เพราะเศรษฐกิจยุโรปยังไม่มีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้น และยังมีความเปราะบางของภาคการเงินค่อนข้างมาก ดังนั้นการส่งออกไปยุโรปคงไม่ฟื้นตัวในเร็ววัน สิ่งที่จะสามารถพยุงไม่ให้การส่งออกของไทยตกต่ำจึงเป็นการพัฒนาตลาดส่งออกใหม่  ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ตลาดส่งออกที่ยังเติบโตได้ดีต่อเนื่องคือ อเมริกาใต้และแอฟริกา ซึ่งหากรวมกันแล้วจะมีขนาดประมาณ 50-60% ของการส่งออกของไทยไปยังสหภาพยุโรป


ข้อมูลโดย :   ดร. พชรพจน์ นันทรามาศ (phacharaphot.nuntramas@scb.co.th)
                ธนกร ลิ้มวิทย์ธราดล (tanakorn.limvittaradol@scb.co.th)
              EIC | Economic Intelligence Center 
 

NEWS & TRENDS