น้ำท่วมทำหนี้เสียพุ่งเฉียดห้าพันล้าน เพิ่มขึ้น 9.6% ชี้สาเหตุอยู่ระหว่างฟื้นฟูทำให้กำลังจ่ายลดลง ธปท.เผยยอดใช้จ่ายไตรมาสแรกผ่านบัตรลดลง 17.56%
น้ำท่วมทำหนี้เสียพุ่งเฉียดห้าพันล้าน เพิ่มขึ้น 9.6% ชี้สาเหตุอยู่ระหว่างฟื้นฟูทำให้กำลังจ่ายลดลง ธปท.เผยยอดใช้จ่ายไตรมาสแรกผ่านบัตรลดลง 17.56%
รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ยอดคงค้างการชำระหนี้บัตรเครดิตเกิน 3 เดือน ซึ่งถือว่าเข้าข่ายการเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ตามนิยามของธปท.ในช่วงไตรมาส 1/2555 รวมทั้งอุตสาหกรรมมีจำนวนทั้งสิ้น 4,895 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.65% จากไตรมาส 4/2554 โดยส่วนใหญ่เป็นการเร่งตัวจากบัตรเครดิตที่ออกโดยสถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตที่มิใช่สถาบันการเงิน (นอนแบงก์) จำนวน 2,171.23 ล้านบาท หรือ 27.64% และเป็นบัตรของธนาคารพาณิชย์ทั้งสิ้น 2,113 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.42% เนื่องจากลูกค้าส่วนหนึ่งมีกำลังชำระหนี้น้อยลง เพราะอยู่ระหว่างการฟื้นฟูธุรกิจและที่อยู่อาศัยที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา
ขณะที่ยอดสินเชื่อคงค้างลดลง 5.75% อยู่ที่ 215,726.78 ล้านบาท เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่บัตรเครดิตที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ยังคงเติบโตมีมูลค่า 121,100.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.14% และนอนแบงก์มีมูลค่า 94,625.93 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายรวม 106,562.84 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน 17.56% โดยเป็นผลจากมูลค่าการใช้จ่ายผ่านบัตรที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์มีมูลค่า 75,021.55 ล้านบาท ลดลง 7.69% นอนแบงก์มีมูลค่า 31,541.29 ล้านบาท ลดลง 8.05%
สำหรับยอดใช้จ่ายทุกบัตรในประเทศมีมูลค่า 104,329.43 ล้านบาท ลดลง 15.36% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แยกเป็นธนาคารพาณิชย์ 61,889.08 ล้านบาท ลดลง 1.86% นอนแบงก์ 26,073.14 ล้านบาท ลดลง 11.04% เนื่องจากผลของอุทกภัยในไตรมาส 4/2554 ขณะที่พบว่ายอดการใช้จ่ายผ่านบัตรในต่างประเทศเติบโตมีมูลค่า 5,822.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.72% โดยบัตรเครดิตที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์มีมูลค่าสูงสุด 3,951.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 78.11% ส่วนบัตรที่ออกโดยนอนแบงก์มีมูลค่า 1,870.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16%