เอสเอ็มอีแบงก์ เตือนผู้ประกอบการรายย่อยระวังถูกผู้แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารเรียกเก็บค่าอนุมัติสินเชื่อ ย้ำตัวจริงต้องแขวนบัตร มีชื่อตรวจสอบได้ ลั่นไม่มีการเรียกเก็บค่าต๋ง หรือมัดมือชกให้ทำประกันชีวิตใดๆ ทั้งสิ้น
“เอสเอ็มอีแบงก์” เตือนผู้ประกอบการรายย่อยระวังถูกผู้แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารเรียกเก็บค่าอนุมัติสินเชื่อ ย้ำตัวจริงต้องแขวนบัตร มีชื่อตรวจสอบได้ ลั่นไม่มีการเรียกเก็บค่าต๋ง หรือมัดมือชกให้ทำประกันชีวิตใดๆ ทั้งสิ้น
นายโสฬส สาครวิศว กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30-31 มกราคม 2555 ที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการ 12 ราย เข้ามาติดต่อสาขาอุบลราชธานี เพื่อติดตามเรื่องการขออนุมัติสินเชื่อรายย่อย
โดยแจ้งว่า เมื่อประมาณ 3-4 เดือนที่ผ่านมา มีผู้อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่เอสเอ็มอีแบงก์ที่สำนักงานใหญ่ เข้ามาติดต่อทำเรื่องยื่นกู้ให้แก่คนในหมู่บ้านโนนจันทร์ จำนวน 60 ราย จาก 12 หมู่บ้าน ที่ตำบลโนนกลาง อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมเรียกเก็บเงินค่าดำเนินการรายละ 3,000-5,000 บาท โดยกล่าวอ้างว่าจะได้รับอนุมัติสินเชื่อในวงเงิน 200,000-500,000 บาท
หลังจากนั้นไม่สามารถติดต่อบุคคลดังกล่าวได้ จึงเข้ามาสอบถามความคืบหน้ากับทางสาขาอุบลราชธานี และจากการตรวจสอบของธนาคาร ไม่พบข้อมูลการขอสินเชื่อดังกล่าว และไม่พบชื่อพนักงานตามที่มีบุคคลแอบอ้างถึงด้วย กลุ่มผู้ประกอบการจึงเดินทางไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน ที่สถานีตำรวจพิบูลมังสาหาร เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2555
นายโสฬส กล่าวว่า นโยบายของธนาคารในการเดินตลาดเพื่อเข้าไปพบผู้ประกอบการเพื่อให้คำแนะนำสินเชื่อนั้น เจ้าหน้าที่ของธนาคารจะไปเป็นทีม โดยต้องแขวนบัตรพนักงานทุกคน เพื่อแสดงตนว่าเป็นพนักงานของธนาคาร เอสเอ็มอีแบงก์ ผู้ขอสินเชื่อสามารถตรวจสอบรายชื่อได้
“ขอย้ำให้ทราบว่า การติดต่อขอสินเชื่อจากธนาคารจะไม่มีการเจรจาผ่านนายหน้าหรือตัวแทนแต่อย่างใด และธนาคารจะไม่มีการเรียกเก็บค่าเสียเวลา หรือบังคับให้มีการทำประกันชีวิตใดๆ ทั้งสิ้น ผมจึงขอเตือนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี อย่าไปหลงเชื่อในพฤติกรรมดังกล่าว ซึ่งผู้ประกอบการที่ต้องการขอสินเชื่อสามารถติดต่อได้ที่ทุกสาขาของธนาคาร หรือสำนักงานใหญ่ หรือสอบถามได้ที่ Call Center 1357” กก.ผจก.เอสเอ็มอีแบงก์ กล่าว
ที่มา : ASTV ผู้จัดการออนไลน์