ธปท.ห่วงปัญหาหนี้ยุโรปแก้ไม่ตก ฟาดกระทบไทย "ประสาร" ย้ำ ยังจำเป็นจับตาใกล้ชิด เพื่อนำข้อมูลมาทำนโยบาย ด้านสภาผู้ส่งออกคาดมูลค่าส่งออกปีมะโรงขยายตัวแค่ 12% อัญมณีอ่วมสุดใน 25 กลุ่มที่ประเมิน จี้รัฐทำแผนดันส่งออกให้ชัด ลุ้น กนง.ถกวันนี้ลดดอกเบี้ยลง 0.25%
ธปท.ห่วงปัญหาหนี้ยุโรปแก้ไม่ตก ฟาดกระทบไทย "ประสาร" ย้ำ ยังจำเป็นจับตาใกล้ชิด เพื่อนำข้อมูลมาทำนโยบาย ด้านสภาผู้ส่งออกคาดมูลค่าส่งออกปีมะโรงขยายตัวแค่ 12% อัญมณีอ่วมสุดใน 25 กลุ่มที่ประเมิน จี้รัฐทำแผนดันส่งออกให้ชัด ลุ้น กนง.ถกวันนี้ลดดอกเบี้ยลง 0.25%
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ยังคงกังวลต่อปัญหาเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศยุโรปที่ยังไม่ชัดเจนของการแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะจะกระทบต่อการขยายตัวเศรษฐกิจไทย ซึ่ง ธปท.มีความจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อทำนโยบาย
ทั้งนี้ ผลกระทบที่มีต่อไทยจากปัญหาดังกล่าว ในรอบแรกอาจมีไม่มากนัก แต่ผลกระทบในรอบถัดมาอาจสร้างความเสียหายด้านการส่งออก ดังนั้น คงต้องติดตามสถานการณ์ของประเทศคู่ค้าอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียประกอบด้วย ไม่ว่าจะเป็น จีน เกาหลีใต้ หรือญี่ปุ่น ซึ่งยอมรับว่าขณะนี้สัญญาณความต้องการสินค้าส่งออกเริ่มชะลอตัวลง
“ยอมรับว่าสัญญาณการส่งออกของหลายๆ ประเทศเริ่มชะลอตัวลง ของเราตอนหลังก็มีกระจายออกไปนอกยุโรป ไปทางเอเชียมากขึ้น แต่ยังจำเป็นต้องติดตามดูว่าพวกนี้จะไปกระทบกลุ่มที่ไม่ใช่ G3 ด้วยหรือไม่” ผู้ว่าการ ธปท.กล่าว
นายไพบูลย์ พลสุวรรณา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย หรือ สรท. กล่าวว่า ดัชนีการส่งออกของไทยในปี 2555 จากผลการศึกษาของคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้ประเมินภาวะการส่งออกจาก 25 กลุ่มอุตสาหกรรมส่งออก คาดว่ามูลค่าการส่งออกจะขยายตัว 12% ปริมาณการส่งออกขยายตัว 9.7% โดยหากภาครัฐสามารถลงทุนได้ตามแผนงานที่วางไว้ จะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยในปี 2555 ขยายตัวได้ 4.5%
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ยังเปราะบาง และมีโอกาสเติบโตในอัตราต่ำ ภาวะตลาดทุนตึงตัว โดยเฉพาะเศรษฐกิจยุโรปที่คาดว่าจะเผชิญภาวะถดถอยในช่วงไตรมาส 4 ของปี ซึ่งหากเกิดวิกฤติการเงินในยุโรปขึ้นจริงและกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก จะส่งผลกระทบให้จีดีพีไทยขยายตัวได้เพียง 2-3% เท่านั้น
ขณะที่การประเมินการส่งออกปีนี้ จากการสอบถามภาคอุตสาหกรรมทั้งหมด 25 กลุ่ม พบว่า มีกลุ่มอุตสาหกรรม 4-5 กลุ่มที่มีแนวโน้มการส่งออกชะลอตัวลง ได้แก่ อัญมณี ที่ได้รับผลกระทบจากราคาทองคำที่ผันผวนของตลาดโลก นอกจากนี้บางกลุ่มยังไม่สามารถหาซื้อเครื่องจักรทดแทนของเดิมที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมได้ ประกอบกับยังมีปัญหาของการชะลอตัวเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลักของไทย รวมทั้งปัญหาราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอีกด้วย โดยหลังจากช่วงไตรมาส 1 สภาผู้ส่งออกอาจต้องมีการประเมินสถานการณ์การส่งออกอีกครั้ง