เอกชนไม่เชื่อปีหน้าท่องเที่ยวโต

อดีตนายกแอตต้า ทำธุรกิจทัวร์จากสแกนดิเนเวีย ยอมรับปีนี้ เพิ่งเริ่มขายเส้นทางกรุงเทพฯ หลังน้ำท่วมลดแล้ว ชี้ ผลจากวิกฤตในยุโรป นักท่องเที่ยวระวังการจับจ่ายมากขึ้น ยอดการใช้จ่าย F&B วูบ 50% แนะผู้ประกอบการเรียนรู้พฤติกรรมลูกค้า เพื่อประโยชน์ของการตั้งราคาขาย ยันปีหน้า ปัจจัยลบยังรออยู่เพียบ แนะกระทรวงการท่องเที่ยวฯปรับวิธีนับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

       อดีตนายกแอตต้า ทำธุรกิจทัวร์จากสแกนดิเนเวีย ยอมรับปีนี้ เพิ่งเริ่มขายเส้นทางกรุงเทพฯ หลังน้ำท่วมลดแล้ว ชี้ ผลจากวิกฤตในยุโรป นักท่องเที่ยวระวังการจับจ่ายมากขึ้น ยอดการใช้จ่าย F&B วูบ 50% แนะผู้ประกอบการเรียนรู้พฤติกรรมลูกค้า เพื่อประโยชน์ของการตั้งราคาขาย ยันปีหน้า ปัจจัยลบยังรออยู่เพียบ แนะกระทรวงการท่องเที่ยวฯปรับวิธีนับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
       
       นายอภิชาติ สังฆอารี อดีตนายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว หรือ แอตต้า และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ อี ดี เอเชีย ทราแวล จำกัด ดำเนินธุรกิจ ทัวร์ อินน์ บาวนต์ จากตลาดสแกนดิเนเวีย และ เจ้าของโรงแรม โคโลนา รีสอร์ต แอนด์ สปา ภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้ เริ่มทำเส้นทางท่องเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพฯ จำหน่ายให้แก่ตลาดนักท่องเที่ยวสแกนดิเนเวีย ในเพียง 1 สัปดาห์ หลังจากที่ก่อนหน้าที่ไม่ได้เสนอขายเส้นทางกรุงเทพฯเลย เพราะมีความกังวลเรื่องสถานการณ์นำท่วม จึงไม่ต้องการให้มีการปรับเปลี่ยนเส้นทางในภายหลัง หากสถานการณ์น้ำท่วมยาวนานกว่านี้ ซึ่งทำให้ ตลาดนักท่องเที่ยวสแกนดิเนเวียในพื้นที่กรุงเทพฯปีนี้ ค่อยข้างซบเซา โดยส่วนใหญ่ จะเลือกเดินทางไปยังเดสติเนชั่นที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเลย เช่น พัทยา ภูเก็ต สมุย ระยอง เป็นต้น
        
       ***ระวังการใช้จ่าย****
       ทั้งนี้จากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในภูมิภาคยุโรป มีผลให้ นักท่องเที่ยวจากตลาดสแกนฯระมัดระวังการจับจ่ายมากขึ้น โดยลดการใช้จ่ายเกี่ยวกัย อาหารและเครื่องดื่ม(F&B) ที่มีบริการอยู่ในโรงแรม ลดลงถึง 50% ปรับพฤติกรรมเปลี่ยนเป็น ไปซื้อสินค้านอกโรงแรม เข้ามารับประทาน ทำให้ หลายโรงแรม เริ่มมีการปรับกลยุทธ์ ทำอาหารปรุงสุขกระตุ้นให้ตัดสินใจซื้อ ณ จุดขาย
      
       “การระมัดระวังการจับจ่าย ของตลาดยุโรปและสแกน เริ่มมีให้เห็นมาตั้งแต่ปีก่อน และปีนี้ ดูได้จาก คืนวันคริสมาสต์ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการโรงแรม ต้อง ปรับลด แพกเกจห้องพัก โดยตัด ดินเนอร์ออกไป เพื่อให้ ราคาถูกลงเฉลี่ย 2-3 พันบาท ต่อคน ซึ่งในคืนเคานต์ดาวน์ ที่จะถึงนี้ก็เช่นกัน เริ่มตัดโปรแกรมดินเนอร์ออกเช่นกัน”
       
       ****แนะผู้ประกอบการปรับตัว****
       อย่างไรก็ตาม ต้องการให้ผู้ประกอบการโรงแรมและบริษัทนำเที่ยว เรียนรู้ที่จะทำการตลาดให้มากขึ้น เพื่อประโยชน์ในการกำหนดราคาขาย เพราะจากการที่พฤติกรรมนักท่องเที่ยวปรับเปลี่ยน ตัดสินใจเดินทางช้าลง เพื่อให้ได้ราคาที่ดีที่สุด ดังนั้น หากจะกำหนดราคาขายสำหรับนักท่องเที่ยว จะต้องมี 2 ช่วงเวลา โดยราคาขายสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมา ช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย. ควรจะตั้งราคาขายสูงกว่าช่วงโลว์ซีซั่นเพียง 30% และ ปรับขึ้นเป็นราคาสำหรับหน้าไฮซีซั่นในช่วงเดือนธ.ค.และ ม.ค.
       
       ***ไม่เชื่อปีหน้าท่องเที่ยวโต*****
       นายอภิชาติ กล่าวถึงสถานการณ์นักท่องเที่ยวปี 2555 ว่า ยังไม่เห็นปัจจัยบวก ที่จะทำให้ฟื้นตัว จนทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางเข้ามาประเทศไทยได้ 19-20 ล้านคน ตามที่หลายหน่วยงานคาดการณ์ไว้ เพราะจากประสบการณืที่อยู่ในธุรกิจท่องเที่ยวมานาน พบว่า ปัจจัยลบสำหรับปีหน้า มีมาก เช่น วิกฤตเศรษฐกิจในยุโรป ซึ่งจะทำให้กำลังซื้อตลาดยุโรปลดลง ส่วนตลาดจีน การส่งออกสินค้าไปยุโรป ก็ต้องลดลง ทำให้เศรษฐกิจจีนเติบโตในอัตราที่ลดลง ไปด้วย ขณะที่ตลาดอนาคตสดใสอย่างรัสเซีย ก็ยังมีปัญหาการเมืองภายในประเทศ ขณะที่ผู้ประกอบการที่ทำตลาดรัสเซียมีจำนวนมากขึ้น ทำให้เกิดการแข่งขันรสูงขึ้น จึงมองว่า จำนวนนักท่องเที่ยวปี 2555 น่าจะทำได้เท่าๆกับปี 2554 อาจเติบโตเล็กน้อย แต่ไม่ถึง 8% ตามที่คาดหวัง
      
       อย่างไรก็ตามต้องการให้กระทรวงการท่องเที่ยว มีการปรับวิธีการจัดเก็บตัวเลขนักท่องเที่ยว ให้แม่นยำมากขึ้น จากที่เก็บเพียงตัวเลขต่างชาติที่ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง มาเป็ฯการทำสำรวจอย่างจริงจัง คัดเฉพาะที่เดินทางเพื่อมาท่องเที่ยวจริงๆ จะได้วางแผนการทำงานได้ถูกต้อง


ที่มา : ASTV ผู้จัดการออนไลน์

NEWS & TRENDS