เอกชนจวกรัฐดีแต่พูด ปากบอกต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจแต่นโยบายกลับสวนทาง ทั้งอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น-ค่าแรงพุ่ง ทำเสียบรรยากาศลงทุน แนะรัฐช่วยอุดหนุนขึ้นค่าแรงก่อน 4 ปี เพื่อ ให้เอกชนมีเวลาปรับตัว ด้านบอร์ดบีโอไอเตรียมเคาะมาตรการฟื้นฟูน้ำท่วม 29 ธ.ค.นี้
เอกชนจวกรัฐดีแต่พูด ปากบอกต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจแต่นโยบายกลับสวนทาง ทั้งอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น-ค่าแรงพุ่ง ทำเสียบรรยากาศลงทุน แนะรัฐช่วยอุดหนุนขึ้นค่าแรงก่อน 4 ปี เพื่อให้เอกชนมีเวลาปรับตัว ด้านบอร์ดบีโอไอเตรียมเคาะมาตรการฟื้นฟูน้ำท่วม 29 ธ.ค.นี้
นายสมมาต ขุนเศษฐ รองเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ต้องการให้รัฐบาลเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในเรื่องอัตราดอกเบี้ยของไทยปัจจุบันอยู่ระดับสูงถึง 3% ไม่สอดคล้องกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่แท้จริง และในปี 2555 อัตราดอกเบี้ยยังเป็นช่วงขาขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนวัตถุดิบและการผลิตสูง ซึ่งทำให้โรงงานต่างๆ อยู่ยาก ดังนั้น ภาคเอกชนต้องการให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ลดดอกเบี้ยลงมา 1.5-2%
นอกจากนี้ ขอให้รัฐบาลทบทวนนโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน ในเดือน เม.ย.2555 ใหม่ หากไม่ดำเนินการก็จะมีข้อเสนอให้ 2 แนวทาง คือ ให้สมาชิกฟ้องศาลปกครองทั้ง 4 ภาค เพื่อขอให้ระงับการปรับขึ้นค่าจ้าง เนื่องจากมีการเมืองเข้ามาแทรกแซง และรัฐต้องอุดหนุนในการปรับขึ้นค่าแรงนำร่องใน 7 จังหวัดเป็นแบบขั้นบันได และให้เอกชนทยอยจ่ายคืนในระยะเวลา 4 ปี
“ความจริงการปรับขึ้นค่าแรงปีละ 20 บาท ก็ถือว่าสูงแล้ว แต่เอกชนก็ยังพอรับไหว เมื่อรัฐบาลออกนโยบายประชานิยมแบบนี้ออกมาก็ไม่ควรผลักภาระให้เอกชนรับเพียงฝ่ายเดียว รัฐบาลต้องใจถึงด้วย เพื่อให้ทุกฝ่ายประคองตัวอยู่รอด ไม่อยากให้เหมือนกับประเทศจีนที่ปัจจุบันแต่ละมณฑลจะประกาศขึ้นค่าแรงเท่าไหร่ก็ได้ จนสุดท้ายนักลงทุนก็หนีไปที่อื่นแทน” นายสมมาต กล่าว
ที่มา : ไทยโพสต์