อุตฯจมน้ำเชื่อมั่นดิ่งสุดรอบ29เดือน ยอดผลิตรถโคม่า
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมไทยเดือนพ.ย.2554 พบว่าค่าดัชนีฯ อยู่ที่ระดับ 87.5 ปรับตัวลดลงจาก 89.0 ในเดือนต.ค. โดยเป็นการปรับลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 และลดลงต่ำที่สุดในรอบ 29 เดือน เนื่องจากน้ำท่วมส่งผลกระทบต่อการผลิต และการ ส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมหลักของไทย เช่น ยานยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งอุตสาหกรรมที่เป็นห่วงโซ่การผลิต ต้องชะลอการผลิตชั่วคราวเช่นเดียวกัน เพราะขาดแคลนชิ้นส่วน และเส้นทางคมนาคมถูกน้ำท่วม
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 104.5 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 101.3 ในเดือนต.ค. เพราะยอดคำสั่งซื้อ ยอดขาย ปริมาณการผลิต และผลประกอบการ มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่ค่าดัชนีปรับลดลงมาต่ำกว่า 100 มี 23 กลุ่ม เช่น กลุ่มสิ่งทอ รองเท้า ยานยนต์และชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์ เซรามิก เครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น เป็นต้น
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการมีความกังวลในประเด็นผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจโลกมากที่สุด รองลงมาคือราคาน้ำมัน สถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศ อัตราแลกเปลี่ยน และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ตามลำดับ และคาดว่าปี 2555 ต้องจับตาดูปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศต่อไป
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. เปิดเผยว่า ยอดการผลิตรถยนต์เดือนพ.ย.2554 มีทั้งสิ้น 2.36 หมื่นคัน ต่ำสุดในรอบ 151 เดือน หรือ 12 ปี 7 เดือน ปรับตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 85% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยตั้งแต่ปลายเดือนต.ค. ต่อเนื่องมาจนถึงเดือนพ.ย. ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ทุกแห่งไม่สามารถผลิตรถยนต์ได้ตามปกติ เพราะขาดแคลนชิ้นส่วน
ด้านนายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ประธานกลุ่มอุตสาห กรรมยานยนต์ ส.อ.ท. กล่าวว่า คาดว่าทั้งปี 2554 จะผลิตรถยนต์ได้เพียง 1.4-1.45 ล้านคัน จากที่ตั้งเป้าไว้ 1.8 ล้านคัน แต่ปีหน้ามั่นใจว่าจะกลับมาอยู่ในระดับ 2 ล้านคันได้แน่นอน เพราะนโยบายรถยนต์คันแรกของรัฐบาล และความต้องการรถยนต์ทั้งตลาดในและต่างประเทศยังมีอีกมาก โดยคาดว่าไตรมาส 1/2555 ทุกค่ายจะสามารถผลิตรถยนต์ได้ 100% ยกเว้นโรงงานฮอนด้าที่เขตประกอบการอุตสาหกรรมโรจนะ
นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ กรรมการบริหารและผู้จัดการทั่วไปส่วนงานขาย บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรถจักรยานยนต์เดือนพ.ย.ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม จึงมียอดจดทะเบียนเพียง 128,324 คัน ซึ่งในส่วนของฮอนด้าแม้โรงงานผลิตที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังจะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่ต้องหยุดผลิต เพราะขาดแคลนชิ้นส่วน ก่อนจะกลับมาผลิตอีกครั้งในเดือนพ.ย.ได้เพียง 79,991 คัน แต่ยังคงรักษาส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับหนึ่งได้ที่ 62%
ทั้งนี้ ฮอนด้าจะสามารถเดินไลน์ผลิตได้แบบเต็มกำลังภายในปลายเดือนธ.ค.นี้ เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วภายในไตรมาสแรกของปีหน้า
ที่มา : ข่าวสด
