รถร่วม ขสมก.ค้านปรับราคาเอ็นจีวี เหตุต้นทุนบริการเพิ่ม ขู่ขึ้นค่าโดยสารอีก 2 บาท พร้อมนัดถก 6 สมาคมขนส่ง 19 ธ.ค. ก่อนสรุปแนวทางขอความช่วยเหลือจากรัฐ ด้านสหพันธ์ขนส่งตรียมยื่นหนังสือนายกฯ
รถร่วม ขสมก.ค้านปรับราคาเอ็นจีวี เหตุต้นทุนบริการเพิ่ม ขู่ขึ้นค่าโดยสารอีก 2 บาท พร้อมนัดถก 6 สมาคมขนส่ง 19 ธ.ค. ก่อนสรุปแนวทางขอความช่วยเหลือจากรัฐ ด้านสหพันธ์ขนส่งตรียมยื่นหนังสือนายกฯ
นายวิทยา เปรมจิตร์ นายกสมาคมพัฒนารถร่วมบริการเอกชน เปิดเผยว่า ปัจุบันรถโดยสารร่วมบริการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ประมาณ 3,600 คัน ได้เปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์เอ็นจีวีทั้งหมดแล้ว หากภาครัฐปรับขึ้นราคาเอ็นจีวี จะส่งผลกระทบต่อต้นทุนอย่างมาก โดยปัจจุบันรถโดยสารธรรมดามีค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงเดือนละ 3-4 หมื่นบาทต่อคัน ส่วนรถปรับอากาศเดือนละ 5 หมื่นบาทต่อคัน
ทั้งนี้ หากรัฐบาลปรับขึ้นราคาเอ็นจีวี โดยไม่มีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการรถร่วม-ขสมก. อาจต้องปรับขึ้นค่าโดยสาร 2 บาททันที ส่งผลให้ค่าโดยสารรถธรรมดาจะเพิ่มเป็น 10 บาทตลอดสาย จาก 8 บาท ส่วนรถปรับอากาศจะเพิ่มขึ้นระยะละ 2 บาท จึงไม่ต้องการให้ปรับขึ้นราคาเอ็นจีวี หากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ขาดทุน ก็ขอให้รัฐบาลชดเชยการขาดทุนให้ ปตท. หรือรัฐบาลควรสนับสนุนบัตรเครดิตพลังงานให้ รถร่วม-ขสมก. เช่นเดียวกับผู้ประกอบการแท็กซี่ และขอให้มีวงเงินมากกว่า 3,000 บาท เพราะต้นทุนผู้ประกอบการ รถร่วม-ขสมก. สูงกว่ารถแท็กซี่
อย่างไรก็ตาม วันที่ 19 ธ.ค. สมาคมด้านการขนส่งรวม 6 แห่ง จะประชุมร่วมกันถึงผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาเอ็นจีวี และจะสรุปแนวทางการขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล โดยเบื้องต้นพบว่า การใช้เชื้อเพลิงเอ็นจีวีสิ้นเปลืองกว่าน้ำมันดีเซลถึง 40% ขณะที่ค่าซ่อมบำรุงของเครื่องยนต์ใช้เอ็นจีวีสูงกว่าการใช้น้ำมัน และยังต้องเสียเวลาในการเติมเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 2 ครั้ง ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง ถ้าใช้น้ำมันดีเซลจะเติมเชื้อเพลิงเพียงวันละ 1 ครั้งเท่านั้น
นายยู เจียรยืนยงพงศ์ ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 21-22 ธ.ค. ตนและสมาคมขนส่งฯ ประมาณ 15-16 สมาคม จะยื่นหนังสือต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อคัดค้านการปรับขึ้นราคาเอ็นจีวี เพราะต้นทุนของ ปตท.ไม่ได้อยู่ที่ราคาก๊าซในตลาดโลก จึงควรคงราคาขายส่งหน้าปั๊มที่ กก.ละ 8.50 บาทตามเดิม นอกจากนั้นจะทำหนังสือทวงถามการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอีกครั้งหนึ่ง ทั้งขอให้ยกเว้นการจัดเก็บค่าตอบแทนส่วนแบ่งรายได้ และช่วยจัดหาเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำด้วย
ที่มา : คมชัดลึก
