นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้ จะเชิญผู้ประกอบการนำเข้าสินค้าแบรนด์เนม ผ่านสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือส.อ.ท.มา หารือการลดภาษีสินค้าแบรนด์เนมที่นำเข้าจากต่างประเทศว่าควรจะปรับลดลงเท่าไหร่ และรับฟังปัญหาอุปสรรคผู้ผลิตสินค้าในประเทศว่าได้รับผลกระทบอะไรบ้าง เพราะปัจจุบันภาษีนำเข้าสินค้าแบรนด์เนมจัดเก็บอยู่ที่ 30%
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้ จะเชิญผู้ประกอบการนำเข้าสินค้าแบรนด์เนม ผ่านสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือส.อ.ท.มา หารือการลดภาษีสินค้าแบรนด์เนมที่นำเข้าจากต่างประเทศว่าควรจะปรับลดลงเท่าไหร่ และรับฟังปัญหาอุปสรรคผู้ผลิตสินค้าในประเทศว่าได้รับผลกระทบอะไรบ้าง เพราะปัจจุบันภาษีนำเข้าสินค้าแบรนด์เนมจัดเก็บอยู่ที่ 30%
"จะต้องฟังผลกระทบจากผู้ประกอบทุกฝ่าย ทั้งจากฝ่ายที่ได้ประโยชน์ และเสียประโยชน์ ซึ่งจะต้องเร่งหาข้อสรุปให้ได้ เพื่อนำเสนอให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลังพิจารณาว่าเห็นด้วยหรือไม่ สำหรับการปรับลดภาษีสินค้าหรูเหลือ 5% หรือไม่ ยังระบุไม่ได้ แต่การลดภาษีต้องแรงพอที่จะทำให้เกิดการดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในไทย ถ้าลดแล้วเห็นว่าไม่แรงขับเคลื่อนมากพอก็ไม่จำเป็นต้องลด ซึ่งเชื่อว่าการลดภาษีครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนให้ไทยเป็นแหล่งช็อปปิ้งพาราไดซ์ ตามมติครม.ก่อนหน้านี้ที่ต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ"
สำหรับสินค้าที่เข้าข่ายการปรับลดภาษี มีทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องหนัง และนาฬิกา แต่กรณีที่ผู้ประกอบการภายในประเทศเป็นห่วงว่า จะกระทบต่อสินค้าแบรนด์เนมในประเทศไม่สามารถแข่งขันได้นั้น จะนำข้อมูลมาพิจารณารอบคอบก่อนการตัดสินใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง ออกมาระบุว่า การลดภาษีสินค้าหรูจะกระทบการจัดเก็บภาษีหลายพันล้านบาท แต่อาจะได้ภาษีส่วนอื่นชดเชยรายได้ที่หายไป เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือแวตต์ และภาษีจากกำไรของนิติบุคคลมากขึ้น และยังกระตุ้นการท่องเที่ยวของไทยที่เป็นกำลังสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี และเป็นการทดแทนการส่งออกที่ชะลอตัว..