นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลมีแผนส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวและบริการ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง ทดแทนการส่งออกที่ชะลอตัว ตามภาวะเศรษฐกิจโลก โดยมอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลังหรือสศค. พิจารณามาตรการ ส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการใช้มาตรการทางด้านภาษี เพื่อสนับสนุน การลงทุนและกระตุ้นการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวให้มากขึ้น เนื่องจากเห็นว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการนั้นเป็นอุตสาหกรรมที่กระจายรายได้และสร้างงานในระยะยาว
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลมีแผนส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวและบริการ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง ทดแทนการส่งออกที่ชะลอตัว ตามภาวะเศรษฐกิจโลก โดยมอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลังหรือสศค. พิจารณามาตรการ ส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการใช้มาตรการทางด้านภาษี เพื่อสนับสนุน การลงทุนและกระตุ้นการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวให้มากขึ้น เนื่องจากเห็นว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการนั้นเป็นอุตสาหกรรมที่กระจายรายได้และสร้างงานในระยะยาว
“ประเทศไทยอาจไม่สามารถพึ่งพาการส่งออกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้มากเหมือนที่ผ่านมา ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกโตช้าลงทำให้การทำงานยากขึ้น เพราะกำลังซื้อจากต่างประเทศลดลง ถึงแม้ว่าเงินบาทอ่อนค่าลงไม่ช่วยให้การส่งออกเพิ่มขึ้น ส่วนการช่วยเหลือภาคธุรกิจที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้ให้เข้าไปแก้ปัญหาภาคธุรกิจเป็นรายกลุ่มอุตสาหกรรม และดูปัญหาด้วยว่ามีอุตสาหกรรมไหนต้องปรับปรุงและให้รฐช่วยเหลืออะไรได้บ้าง ซึ่งเริ่มจากกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า และกลุ่มยานยนต์”