นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือบีโอไอ เปิดเผยว่า บีโอไอได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ(MOU) กับธนาคารชิกะ(Shiga) ธนาคารท้องถิ่นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดชิกะ เขตคันไซ ประเทศญี่ปุ่น ที่มีลูกค้าส่วนใหญ่เป็นบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลาง(SMEs)โดยมีข้อตกลงร่วมกันที่จะสร้างความสัมพันธ์อันดีในด้านต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนญี่ปุ่นที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย
นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือบีโอไอ เปิดเผยว่า บีโอไอได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ(MOU) กับธนาคารชิกะ(Shiga) ธนาคารท้องถิ่นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดชิกะ เขตคันไซ ประเทศญี่ปุ่น ที่มีลูกค้าส่วนใหญ่เป็นบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลาง(SMEs)โดยมีข้อตกลงร่วมกันที่จะสร้างความสัมพันธ์อันดีในด้านต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนญี่ปุ่นที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย
ทั้งนี้สาระของ MOU ดังกล่าวจะให้ความสำคัญกับการมุ่งสร้างเครือข่ายของการจัดกิจกรรมส่งเสริมและชักจูงการลงทุน รวมถึงการเผยแพร่และแลกเปลี่ยนข้อมูลต่อนักลงทุนญี่ปุ่นที่มีศักยภาพและมีความสนใจลงทุนในเมืองไทยผ่านช่องทางต่างๆ อาทิ เอกสารเผยแพร่ การสัมมนา การพบปะหารือรายบริษัท เป็นต้น
นอกจากนี้ยังจะมีการแลกเปลี่ยนความเห็นร่วมกัน อาทิ บรรยากาศการลงทุนในไทย และกิจกรรมของบีโอไอ รายงานประจำปีของธนาคารชิกะเกี่ยวกับการลงทุนของญี่ปุ่นในต่างประเทศ และการสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ของสองหน่วยงาน เป็นต้น "ปัจจุบันเอสเอ็มอีของญี่ปุ่นสนใจที่จะไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มอาเซียน" นายอุดมกล่าว
ดังนั้นความร่วมมือกันครั้งนี้จะช่วยให้ข้อมูลที่น่าสนใจของประเทศไทยเข้าถึงนักลงทุนญี่ปุ่นได้มากขึ้น โดยผ่านหน่วยงาน(ธนาคาร)ที่มีความใกล้ชิดกับนักลงทุนและเป็นหน่วยงานที่นักลงทุนเชื่อมั่นและวางใจ ย่อมจะเป็นประโยชน์ต่อการชักจูงนักลงทุนญี่ปุ่นให้เข้ามาลงทุนในประเทศได้เพิ่มขึ้นอีกมาก โดยเฉพาะลูกค้าของธนาคารดังกล่าวส่วนใหญ่มีศักยภาพสูงและมีความโดดเด่นในอุตสาหกรรมหลากหลาย อาทิ ผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์ ไบโอเทคโนโลยี ยาและสุขภาพ รวมถึงพลังงานทดแทน ซึ่งล้วนเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายของบีโอไอในการชักจูงให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย