นางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงฯ มีแผนจะผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยใช้เงินบาท หรือเงินสกุลท้องถิ่น ในการทำการค้าชายแดน ทั้งการซื้อและขายสินค้า เพราะจะช่วยให้ลดความเสี่ยงในการอ้างอิงเงินสกุลหลัก โดยเฉพาะความผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยนของเงินดอลลาร์สหรัฐ และยังช่วยลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งจะช่วยให้การค้าชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น
นางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงฯ มีแผนจะผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยใช้เงินบาท หรือเงินสกุลท้องถิ่น ในการทำการค้าชายแดน ทั้งการซื้อและขายสินค้า เพราะจะช่วยให้ลดความเสี่ยงในการอ้างอิงเงินสกุลหลัก โดยเฉพาะความผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยนของเงินดอลลาร์สหรัฐ และยังช่วยลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งจะช่วยให้การค้าชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ การค้าชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2555 มีมูลค่าการค้ารวม 1.28 ล้านล้านบาท แบ่งออกเป็น การค้าชายแดน มีสัดส่วน 71% มูลค่า 9.1 แสนล้านบาท และการค้าระหว่างประเทศที่ไม่ใช่การค้าชายแดน มีสัดส่วน 29% มูลค่า 3.7 แสนล้านบาท โดยทำการค้ากับมาเลเซียมากสุด คิดเป็น 62% รองลงมา เมียนมาร์ 16% ลาว 12% และกัมพูชา 10%
นางวัชรี กล่าวว่า กระทรวงฯ ยังได้ขอความร่วมมือไปยังภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยกันสนับสนุนการค้าชายแดน โดยให้เอกชนขอความร่วมมือไปยังเอกชนของเพื่อนบ้านให้ตั้งราคาสินค้าและชำระเงินเป็นเงินบาทหรือเงินสกุลท้องถิ่น รวมทั้งขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขยายการถือเงินบาทออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านจาก 5 แสนบาท เป็น 2 ล้านบาท รวมทั้งขอให้ช่วยผลักดันให้ธนาคารพาณิชย์ลดค่าธรรมเนียมการโอนเงินบาทจากต่างประเทศมาไทย
ขณะเดียวกัน ขอให้กระทรวงการคลังพิจารณาสนับสนุนให้เอกชนจัดตั้งคลังสินค้าชั่วคราว และความเป็นไปได้ในการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับประชาชนเพื่อนบ้านที่เข้ามาซื้อสินค้าไทย การขยายเวลาเปิด-ปิดด่านสำคัญ เป็นต้น.
