นายพิภวัตว์ ภัทรนาวิก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า จากมาตรการปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาทต่อวันทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 ส่งผลให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีบางรายได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงดังกล่าวในด้านต้นทุนการผลิตและสภาพคล่องทางธุรกิจ ดังนั้นธนาคารกสิกรไทยจึงได้ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ออกโครงการ SME ไม่หวั่นค่าแรง ลดดอกเบี้ย 6% เพื่อช่วยเหลือและแบ่งเบาภาระแก่เอสเอ็มอีจากปัญหาเรื่องต้นทุนค่าแรงที่เพิ่มขึ้น
นายพิภวัตว์ ภัทรนาวิก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า จากมาตรการปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาทต่อวันทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 ส่งผลให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีบางรายได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงดังกล่าวในด้านต้นทุนการผลิตและสภาพคล่องทางธุรกิจ ดังนั้นธนาคารกสิกรไทยจึงได้ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ออกโครงการ SME ไม่หวั่นค่าแรง ลดดอกเบี้ย 6% เพื่อช่วยเหลือและแบ่งเบาภาระแก่เอสเอ็มอีจากปัญหาเรื่องต้นทุนค่าแรงที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่ขอสินเชื่อโครงการนี้จากธนาคารกสิกรไทย จะได้รับส่วนลดดอกเบี้ย 3% ทันทีเมื่อได้รับการอนุมัติ และสามารถเลือกรูปแบบการผ่อนชำระแบบปลอดเงินต้น 3 เดือน (Grace Period 3 เดือน) ซึ่งเป็นสิทธิพิเศษจากธนาคารกสิกรไทยเพียงแห่งเดียว นอกจากนี้ สำหรับลูกค้าเดิมของธนาคาร 700 ท่านแรก ที่ขอสินเขื่อในโครงการนี้ จะได้รับส่วนลดดอกเบี้ยสูงถึง 6% โดยจะเป็นส่วนลดอัตราดอกเบี้ยจาก สสว. 3% และธนาคารกสิกรไทยให้ส่วนลดดอกเบี้ยเพิ่มอีก 3%
สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่จะเข้าร่วมโครงการ SME ไม่หวั่นค่าแรง ลดดอกเบี้ย 6% จะต้องเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากการปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2556 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ รวม 51 จังหวัด และอยู่ในกลุ่มธุรกิจที่มีการใช้แรงงานสูง 12 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ทำจากโลหะประดิษฐ์ ธุรกิจภัตตาคาร ร้านขายอาหาร ธุรกิจผลิตไม้ ผลิตภัณฑ์จากไม้ และไม้ก๊อก ธุรกิจการก่อสร้าง ธุรกิจผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก ธุรกิจการขายปลีก ธุรกิจโรงแรมและที่พักชั่วคราว ธุรกิจการขนส่ง ธุรกิจการบำรุงรักษาการซ่อมแซมยานยนต์ จักรยานยนต์ การขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงรถยนต์ และธุรกิจการผลิตเครื่องเรือน เฟอร์นิเจอร์และอัญมณีเครื่องประดับ
นายพิภวัตว์ กล่าวในตอนท้ายว่า ธนาคารกสิกรไทย เป็นธนาคารแรกและธนาคารเดียวที่ช่วยลดภาระดอกเบี้ยให้กับลูกค้าทันทีที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งโครงการดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถลดภาระทางด้านการเงินที่เพิ่มขึ้นจากผลกระทบของการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการดังกล่าว ได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2556 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ K-BIZ Contact Center 0 2888 8822
ด้านนายชาวันย์ สวัสดิ์-ชูโต รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการดำเนินงานภายใต้โครงการสนับสนุนดอกเบี้ยแก่เอสเอ็มอี เพื่อลดผลกระทบจากการปรับค่าจ้างแรงงานในอัตรา 300 บาทต่อวัน ซึ่ง กระทรวงอุตสาหกรรม โดย สสว. ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับอัตราค่าจ้างแรงงาน โดยการชดเชยดอกเบี้ยในอัตรา 3% ของวงเงินสินเชื่อ เป็นระยะเวลา 1 ปี มีวงเงินกู้ยืมไม่เกินรายละ 1 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนระยะสั้นแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ให้สามารถปรับตัวได้ทันกับสถานการณ์ต้นทุนที่เปลี่ยนแปลงไป
“สำหรับโครงการสนับสนุนดอกเบี้ยแก่เอสเอ็มอีเพื่อลดผลกระทบจากการปรับค่าจ้างแรงงานในอัตรา 300 บาทต่อวัน มีวงเงินงบประมาณดำเนินการจำนวน 193 ล้านบาท ซึ่ง สสว. เชื่อว่าภายใต้ความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยสร้างโอกาส ช่วยบรรเทาผลกระทบให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สามารถบริหารจัดการต้นทุนในการดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยรักษาสภาพการจ้างงานให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในภาคการผลิต ค้าปลีก-ค้าส่ง และบริการ อย่างเป็นรูปธรรม และคาดว่าจะมีผู้ประกอบการได้รับประโยชน์จากการเข้าร่วมโครงการนี้ไม่น้อยกว่า 6,300 ราย”