นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ประธานกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กนอ. ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ออกประกาศเชิญชวนเอกชนที่สนใจเข้ามาเสนอพื้นที่เพื่อจัดตั้งนิคมฯในรูปแบบร่วมดำเนินงานกับ กนอ. ใน 3 พื้นที่เป้าหมาย ได้แก่ นิคมฯ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) นิคมฯ เชียงของ และนิคมฯ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเปิดรับการยื่นขอเสนอจัดตั้งนิคมตั้งแต่วันที่1 เมษายน ถึง 31 พฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้ประกอบการเสนอพื้นที่เพื่อจัดตั้งนิคมฯ ทั้งหมด 28 โครงการ แบ่งออกเป็นนิคมฯ SMEs 18 โครงการ นิคมฯ เชียงของ 4 โครงการ และนิคมฯ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6 โครงการ โดยโครงการดังกล่าวเป็นไปตามแนวทางการพัฒนาโครงการเพื่อเพิ่มพื้นที่อุตสาหกรรม โดยมีรายละเอียด ดังนี้
นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ประธานกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กนอ. ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ออกประกาศเชิญชวนเอกชนที่สนใจเข้ามาเสนอพื้นที่เพื่อจัดตั้งนิคมฯในรูปแบบร่วมดำเนินงานกับ กนอ. ใน 3 พื้นที่เป้าหมาย ได้แก่ นิคมฯ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) นิคมฯ เชียงของ และนิคมฯ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเปิดรับการยื่นขอเสนอจัดตั้งนิคมตั้งแต่วันที่1 เมษายน ถึง 31 พฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้ประกอบการเสนอพื้นที่เพื่อจัดตั้งนิคมฯ ทั้งหมด 28 โครงการ แบ่งออกเป็นนิคมฯ SMEs 18 โครงการ นิคมฯ เชียงของ 4 โครงการ และนิคมฯ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6 โครงการ โดยโครงการดังกล่าวเป็นไปตามแนวทางการพัฒนาโครงการเพื่อเพิ่มพื้นที่อุตสาหกรรม โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. การพัฒนาพื้นที่เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของกลุ่มอุตสาหกรรม (Cluster Base) โดยการดำเนินโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม SMEs เพื่อรองรับนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ มีพื้นที่ที่เหมาะสมในจังหวัดชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา อยุธยา เป็นต้น สามารถรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า อุตสาหกรรมเกษตรและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เป็นต้น ซึ่งมีผู้เสนอพื้นที่เพื่อจัดตั้งนิคมฯ เป็นจำนวน 18 โครงการ
2. การพัฒนาพื้นที่เพื่อรองรับการให้บริการด้านโลจิสติกส์ และการค้าชายแดน โดยการดำเนินโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมบริการด้านโลจิสติกส์ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ซึ่งมีผู้เสนอพื้นทีเพื่อจัดตั้งนิคมฯ เป็นจำนวน 4 โครงการ
3. การพัฒนาพื้นที่อุตสาหกรรมตามพื้นที่เป้าหมาย (Area Base) โดยการดำเนินโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อเชื่อมโยงกับระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (East West Economic Corridor) โดยนำร่องในภาคตะวันออกเฉียงเหนือในพื้นที่ 8 จังหวัด คือ อุดรธานี ขอนแก่น นครราชสีมา นครพนม อุบลราชธานี สกลนคร มุกดาหาร และหนองคาย ซึ่งมีผู้เสนอพื้นที่จัดตั้งนิคมฯ เป็นจำนวน 6 โครงการ
ทั้งนี้ อยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบเอกสารให้เป็นไปตามขั้นตอนการจัดตั้งนิคมฯ โดยจะแจ้งผลให้ผู้เสนอพื้นที่ทราบเบื้องต้น ภายใน 60 วัน นับตั้งแต่วันปิดรับสมัคร และจะนำเสนอคณะกรรมการ กนอ. พิจารณาเห็นชอบเป็นราย ๆ ไป โดย กนอ. มีมาตรการจูงใจเพื่อสนับสนุนให้ภาคเอกชน ที่จะลงทุนจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม ในพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งจะเกิดประโยชน์สูงสุด และสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ประกอบการ ดังนี้ 1) สนับสนุนการก่อสร้างศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ (OSS) พื้นที่ประมาณ 500 ตารางเมตร ในวงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาท 2) ยกเว้นค่ากำกับบริการ 2 ปี โดยให้ชำระในปีที่ 5 เป็นต้นไป 3) กนอ. สนับสนุนในเรื่องการประชาสัมพันธ์โครงการทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้ กนอ. จะพิจารณาเข้าร่วมลงทุนในโครงการเป้าหมายหากโครงการมีความเป็นไปได้ ทางด้านการตลาด และการเงินอยู่ในเกณฑ์ที่ดี นายวิฑูรย์ กล่าวสรุป
โดยนักลงทุนและผู้ประกอบการ และประชาชนทั่วไป สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0-2253-0561 ต่อ 1112 , 1132 หรือเข้าไปที่ www.ieat.go.th