สสว.จับมือ UKTI พัฒนา SMEs ไทย - อังกฤษ

สสว. ผนึก UKTI พัฒนาศักยภาพเอสเอ็มอี “ไทย-อังกฤษ” เสริมแกร่งความรู้ทางธุรกิจ การค้า-ลงทุน แลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและวิถีปฏิบัติตามมาตรฐานสากลหวังยกระดับให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างอังกฤษกับภูมิภาคอาเซียนและอาเซียน+6 รองรับการเข้าสู่ AEC

 


สสว. ผนึก UKTI พัฒนาศักยภาพเอสเอ็มอี “ไทย-อังกฤษ” เสริมแกร่งความรู้ทางธุรกิจ การค้า-ลงทุน แลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและวิถีปฏิบัติตามมาตรฐานสากลหวังยกระดับให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างอังกฤษกับภูมิภาคอาเซียนและอาเซียน+6 รองรับการเข้าสู่ AEC

นายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากความสัมพันธ์ของประเทศไทย และสหราชอาณาจักร (อังกฤษ) ที่มีมายาวนานกว่า 400 ปี และได้มีความร่วมมือกันในหลากหลายมิติ โดยเฉพาะในด้านการค้าการลงทุน ซึ่งจากการที่ทั้ง 2 ประเทศต่างให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จึงนำมาสู่ความร่วมมือกันในด้านวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ระหว่าง สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) หน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานการค้าและการลงทุนสหราชอาณาจักร (UK Trade and Investment : UKTI) ครั้งนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกรอบความตกลงจากการเจรจาทางยุทธศาสตร์ สหราชอาณาจักรและราชอาณาจักรไทย หรือ UK-Thailand Strategic Dialogue

“กระทรวงอุตสาหกรรม และ สสว. ให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเพื่อสร้างโอกาสในการขยายการค้าการลงทุนเข้าไปสู่ตลาดต่างประเทศ โดยกลยุทธ์สำคัญคือการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรต่างชาติ โดยเฉพาะ UKTI ซึ่งเป็นองค์กรที่มีบทบาทหน้าที่ในการส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของอังกฤษ เพื่อร่วมกันสนับสนุนและพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีด้วยการพัฒนาศักยภาพ เชื่อมโยงเครือข่ายและสร้างโอกาสทางการค้าให้กับเอสเอ็มอีทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวจะมีขึ้นนับตั้งแต่บัดนี้ เป็นระยะเวลา 3 ปี”

สำหรับความร่วมมือดังกล่าวเพื่อยกระดับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพาณิชย์ ระหว่างเอสเอ็มอีไทย กับเอสเอ็มอีอังกฤษ สนับสนุนการจัดตั้งเครือข่ายเอสเอ็มอีเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของเอสเอ็มอีในการดำเนินธุรกิจทุกๆ มิติ ตั้งแต่เรื่องวัตถุดิบและการผลิต การถ่ายทอดเทคโนโลยี การสร้างอำนาจทางการตลาด รวมถึงความรู้ในการบริหารจัดการนอกจากนี้จะสนับสนุนให้เอสเอ็มอีไทยและอังกฤษ ได้เพิ่มอำนาจการแข่งขันทั้งในตลาดภูมิภาคอาเซียน สหภาพยุโรป และในตลาดโลก

นายประเสริฐ กล่าวว่า กรอบความร่วมมือดังกล่าว คือ การแลกเปลี่ยนข้อมูล องค์ความรู้ และประสบการณ์รวมถึงแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีร่วมสมัยและวิถีปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานสากล ทั้งโดยการฝึกอบรมผู้ฝึกสอนในเรื่องการเป็นผู้ประกอบการ การจัดประชุมเชิงปฏิบัติการว่าด้วยการเป็นผู้ประกอบการ การแบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับอุตสาหกรรมขนาดย่อมรวมถึงการรวมกลุ่มอุตสาหกรรม และการขยายโอกาสทางธุรกิจไปสู่ภูมิภาคของแต่ละประเทศด้วยการจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ

นอกจากนี้ จากการที่ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่ความเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบในปลายปี 2015 จะส่งผลให้เศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียนหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ซึ่งคาดการณ์ว่าการค้าระหว่างอังกฤษกับประเทศในภูมิภาคอาเซียนและ ASEAN+6 จะเปิดกว้างมากขึ้น จึงเป็นโอกาสที่ประเทศไทยในฐานะพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ จะมีบทบาทสำคัญในการเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงสินค้าและบริการระหว่างอังกฤษกับประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน ได้เป็นอย่างดี

NEWS & TRENDS