นายอำนาจ ยะโสธร เลขาธิการกลุ่มอุตสาหกรรมเซรามิก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่กระทรวงพลังงานจะปรับราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ขึ้น ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตในวันที่ 1 มิ.ย.2556 นี้ อีก 50 สตางค์ต่อกิโลกรัม จากเดิมราคา 18.13 บาทต่อกิโลกรัม จะส่งผลให้กลุ่มอุตสาหกรรมเซรามิกขนาดเล็กจริงๆ ต้องแบกรับภาระต้นทุนเพิ่ม ซึ่งยังไม่รวมต้นทุนที่เกิดจากการปรับค่าจ้าง 300 บาทต่อวันเพิ่มขึ้นอีก ดังนั้น สิ่งที่กลุ่มอุตสาหกรรมเซรามิก โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอีต้องเผชิญอยู่ขณะนี้ถือว่าโหดร้ายอย่างมาก
นายอำนาจ ยะโสธร เลขาธิการกลุ่มอุตสาหกรรมเซรามิก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่กระทรวงพลังงานจะปรับราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ขึ้น ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตในวันที่ 1 มิ.ย.2556 นี้ อีก 50 สตางค์ต่อกิโลกรัม จากเดิมราคา 18.13 บาทต่อกิโลกรัม จะส่งผลให้กลุ่มอุตสาหกรรมเซรามิกขนาดเล็กจริงๆ ต้องแบกรับภาระต้นทุนเพิ่ม ซึ่งยังไม่รวมต้นทุนที่เกิดจากการปรับค่าจ้าง 300 บาทต่อวันเพิ่มขึ้นอีก ดังนั้น สิ่งที่กลุ่มอุตสาหกรรมเซรามิก โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอีต้องเผชิญอยู่ขณะนี้ถือว่าโหดร้ายอย่างมาก
นอกจากนี้ ปัญหาการแข็งค่าของเงินบาทยังได้ส่งผลกระทบต่อกลุ่มอุตสาหกรรมเซรามิกเป็นอย่างมาก ซึ่งผู้ประกอบการได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทแล้ว ยังได้รับผลกระทบจากสินค้าเซรามิกที่นำเข้ามาจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก จากปกติที่นำเข้ามาขายในราคาที่ต่ำอยู่แล้วแต่เมื่อมาเจอค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอีก ยิ่งทำให้สินค้าเซรามิกราคาถูกทะลักเข้ามามากขึ้นกว่าเดิม ทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถแข่งขันกับสินค้าในราคาต่ำได้
ทั้งนี้ มองว่าค่าเงินบาทในประเทศไทยสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมเซรามิกควรอยู่ที่ 31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ถือว่าเหมาะสมมากที่สุด เพราะปัจจุบันกลุ่มอุตสาหกรรมเซรามิกยังมีสินค้าค้างสต็อกอยู่จำนวนมากและไม่สามารถปรับขึ้นราคาได้ เนื่องจากส่งออกไปก็จะประสบภาวะขาดทุน จึงได้ชะลอการส่งออก เพื่อรอให้ค่าเงินบาทมีเสถียรภาพมากกว่านี้
สำหรับกลุ่มสินค้า 3 ประเภท ประกอบด้วย เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร ที่มีมูลค่าการส่งออกปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 5.346 พันล้านบาท กลุ่มเครื่องสุขภัณฑ์ 4.309 พันล้านบาท กระเบื้องปูพื้นและปูผนัง 3.685 พันล้านบาท ที่ส่วนใหญ่จะส่งออกไปตลาดสหรัฐอเมริกาและยุโรป กำลังจะประสบปัญหากับภาวะขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน และอาจทำให้ยอดการส่งออกลดลง ซึ่งจะมีผลต่อมูลค่าการส่งออกปี 2556 นี้ลดลงด้วย