นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงการค้าและการลงทุนของเมียนมาร์ หลังปี 2015 ว่า จากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 อย่างเต็มรูปแบบ เศรษฐกิจของเมียนมาร์จะขยายตัวได้ร้อยละ 7.6 จากการนำเข้าสินค้าเพื่อการลงทุนแบบก้าวกระโดด และส่วนใหญ่จะเป็นการนำเข้าจากประเทศจีน ในขณะที่การค้าระหว่างไทยกับเมียนมาร์ ประเทศไทยยังคงเป็นฝ่ายขาดดุลการค้า เพราะส่วนใหญ่ ประเทศไทยจะมีการนำเข้าเชื้อเพลิงและพลังงานจากเมียนมาร์ ในขณะที่ สินค้าส่งออกของไทยจะเป็นสินค้าเกษตร อาหาร และเครื่องดื่ม แต่จากการเปิด AEC เชื่อว่าสินค้าส่งออกของไทยจะขยายตัวได้มากขึ้นเป็นร้อยละ 14 หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 5,100 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะทำให้การขาดดุลการค้าน้อยลง
นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงการค้าและการลงทุนของเมียนมาร์ หลังปี 2015 ว่า จากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 อย่างเต็มรูปแบบ เศรษฐกิจของเมียนมาร์จะขยายตัวได้ร้อยละ 7.6 จากการนำเข้าสินค้าเพื่อการลงทุนแบบก้าวกระโดด และส่วนใหญ่จะเป็นการนำเข้าจากประเทศจีน ในขณะที่การค้าระหว่างไทยกับเมียนมาร์ ประเทศไทยยังคงเป็นฝ่ายขาดดุลการค้า เพราะส่วนใหญ่ ประเทศไทยจะมีการนำเข้าเชื้อเพลิงและพลังงานจากเมียนมาร์ ในขณะที่ สินค้าส่งออกของไทยจะเป็นสินค้าเกษตร อาหาร และเครื่องดื่ม แต่จากการเปิด AEC เชื่อว่าสินค้าส่งออกของไทยจะขยายตัวได้มากขึ้นเป็นร้อยละ 14 หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 5,100 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะทำให้การขาดดุลการค้าน้อยลง
นอกจากนี้ การลงทุนในเมียนมาร์ ยังคงหน้าสนใจ ทั้งการลงทุนโรงแรม ท่องเที่ยว อุตสาหกรรมการผลิต โทรคมนาคม และอุตสาหกรรมการเกษตร แม้ว่าจะมีความเสี่ยงอยู่บ้างด้านสาธารณูปโภค แต่ก็ยังถือว่ายังคุ้มค่ากับการลงทุน