EVA Air เปิดตัวที่นั่งชั้นประหยัดพรีเมียมรุ่นที่ 4 กำหนดมาตรฐานใหม่ให้แก่วงการด้วยระยะห่างที่นั่งที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม

     EVA Air เปิดตัวที่นั่งชั้นประหยัดพรีเมียมรุ่นที่ 4 ซึ่งมาพร้อมพื้นที่ระหว่างที่นั่งกว้างถึง 42 นิ้ว นับเป็นมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรม โดยมีการนำเสนออย่างเป็นทางการในงานเปิดตัว "Focus on Evolution: Taking Off with Heart" ณ โรงซ่อมบำรุงหมายเลข 4 ของบริษัท Evergreen Aviation Technologies Corporation ภายในงาน ซึ่งได้รับเกียรติจาก คุณเคลย์ ซุน ประธาน EVA Air เป็นประธานเปิดตัว สายการบินได้นำเสนอการออกแบบที่นั่งใหม่ล่าสุด โดยนับเป็นครั้งแรกที่ EVA Air ติดตั้งที่นั่งชั้นประหยัดพรีเมียมบนเครื่องบิน Boeing 787-9 พร้อมยกระดับแนวคิดการออกแบบจาก “ชั้นประหยัดแบบพิเศษทั่วไป” สู่ประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกับ “ชั้นธุรกิจ” มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้เพื่อตอบโจทย์ความสะดวกสบายและความหรูหราให้แก่ผู้โดยสาร และเพื่อเสริมสร้างการบริการในรูปแบบสามชั้นโดยสารที่ครบครัน

      เคลย์ ซุน ประธาน EVA Air กล่าวว่า “EVA Air เป็นสายการบินแรกของโลกที่เปิดตัวชั้นโดยสารแบบประหยัดพรีเมียม เรามุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยคำนึงถึงความต้องการของผู้โดยสารเป็นหลัก พร้อมสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อตั้งมาตรฐานให้แก่อุตสาหกรรม ที่นั่งชั้นประหยัดพรีเมียมรุ่นที่ 4 นี้ยังคงเอกลักษณ์ของรุ่นก่อนหน้า แต่ได้รับการออกแบบใหม่ให้มีความสะดวกสบาย ทันสมัย และใช้งานได้ดียิ่งขึ้น สะท้อนถึงความใส่ใจในรายละเอียดและการยกระดับบริการของเรา” และยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “เครื่องบิน Boeing 787-9 ที่ติดตั้งที่นั่งชั้นประหยัดพรีเมียมรุ่นใหม่นี้ จะให้บริการเส้นทางแรกระหว่างสนามบินนานาชาติเถาหยวน ไต้หวัน (TPE) และจาการ์ตา (CGK) ก่อนจะขยายไปยังเส้นทางอื่น ๆ ในอนาคต ได้แก่ มิวนิก (MUC), มิลาน (MXP), เที่ยวบินตรงไปยังเวียนนา (VIE) และเที่ยวบินกลางวันสู่ซานฟรานซิสโก (SFO)”

      ที่นั่งชั้นประหยัดพรีเมียมรุ่นใหม่ของ EVA Air มีทั้งหมด 28 ที่นั่ง จัดเรียงในรูปแบบ 2-3-2 โดยใช้กลไกปรับเอนแบบ Cradle Motion Recline ซึ่งช่วยให้เบาะเลื่อนขึ้นและเอนไปข้างหลังพร้อมกัน ทำให้สามารถเอนได้อย่างสบายถึง 8 นิ้ว โดยไม่รบกวนพื้นที่ของผู้โดยสารด้านหลัง ทุกที่นั่งติดตั้ง หน้าจอความละเอียดสูงขนาด 15.6 นิ้ว ซึ่งเป็นขนาดที่ใหญ่ที่สุดในชั้นประหยัดพรีเมียมของอุตสาหกรรม พร้อมระบบควบคุมความบันเทิงแบบมัลติฟังก์ชัน นอกจากนี้ โต๊ะวางอาหารยังมาพร้อม ช่องวางอุปกรณ์ส่วนตัว และที่นั่งทุกตัวมีช่องเสียบไฟ 110V AC และพอร์ต USB Combo รองรับทุกความต้องการของผู้โดยสารยุคใหม่

     การออกแบบใหม่นี้มาพร้อมดีไซน์ที่เน้นความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้น ด้วยแผงกั้นความเป็นส่วนตัว และไฟอ่านหนังสือในตัว นอกจากนี้ที่วางศีรษะ ที่วางแขน และที่วางขา ได้รับการบุด้วยหนังพรีเมียม เพื่อมอบประสบการณ์หรูหราและสะดวกสบาย ที่นั่งแต่ละตัวมีช่องเก็บของขนาดใหญ่ ทั้งในที่วางแขน ช่องเก็บของที่หลังที่นั่ง และที่วางขวดเฉพาะ ทำให้ผู้โดยสารสามารถเก็บและหยิบของใช้ส่วนตัวได้สะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ที่วางแขนที่นั่งริมทางเดินยังได้รับการออกแบบให้รองรับการใช้งานสำหรับผู้โดยสารที่ใช้วีลแชร์ เพื่อให้พนักงานบริการสามารถช่วยเหลือได้ง่ายและสะดวก

     EVA Air เป็นสายการบินแรกที่เปิดตัวชั้นประหยัดพรีเมียม ซึ่งในตอนนั้นรู้จักกันในชื่อ Evergreen Deluxe Class ตั้งแต่ปี 1992 การเพิ่มชั้นนี้เข้ามาได้เปลี่ยนแปลงการให้บริการในห้องโดยสาร โดยสร้างช่องว่างระหว่างชั้นประหยัดและชั้นธุรกิจ และช่วยเปลี่ยนแปลงมาตรฐานในอุตสาหกรรมการบิน ที่นั่งในชั้นนี้มีพื้นที่ระหว่างที่นั่งถึง 38 นิ้ว ซึ่งกว้างกว่าชั้นประหยัดทั่วไป และยังเป็นที่นั่งแรกที่ติดตั้งระบบทีวีส่วนตัว การพัฒนาอย่างต่อเนื่องของ EVA Air ในการยกระดับชั้นประหยัดพรีเมียมได้รับการยอมรับทั่วโลก โดยได้รับรางวัลจาก Skytrax หลายรางวัล เช่น “สายการบินชั้นประหยัดพรีเมียมที่ดีที่สุดในโลก”, “การบริการอาหารชั้นประหยัดพรีเมียมที่ดีที่สุด”, และ “ที่นั่งชั้นประหยัดพรีเมียมที่ดีที่สุด”

      EVA Air ยกระดับการบริการโดยร่วมมือกับแบรนด์สไตล์เอาท์ดอร์ชื่อดังจากอังกฤษ HUNTER สำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัด พรีเมียมในเส้นทางระยะยาวสู่สหรัฐฯ, แคนาดา และยุโรปที่ออกจากไทเป ผู้โดยสารจะได้รับ amenity kit สีเขียวมะกอก ขณะที่เที่ยวบินขากลับจะได้รับชุดสีโอ๊ตมีลบราวน์ ดีไซน์ทันสมัยและใช้งานได้หลากหลาย มีสายคล้องที่สามารถถอดออกได้ พร้อมด้วย โลชั่นและลิปบาล์มจากแบรนด์ HUNTER เพื่อมอบประสบการณ์การดูแลผิวที่สดชื่นตลอดการเดินทางระยะยาว

     EVA Air ยังคงให้ความสำคัญกับการใช้สินค้าบริการที่มีคุณภาพสูงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยผู้โดยสารจะได้รับหมอน และผ้าห่ม เพื่อความสะดวกสบายที่เหนือกว่า รวมถึงหูฟังคุณภาพสูงที่ออกแบบเฉพาะ และเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร ที่ร่วมมือออกแบบกับแบรนด์อิตาลีที่มีประวัติยาวนานอย่าง Guzzini นอกจากนี้ ยังมีผ้าเช็ดปากจากเส้นใยไม้ไผ่ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ EVA Air ในการส่งเสริมความยั่งยืน บริการพรีเมียมยังมี เครื่องใช้ในห้องน้ำของ Royal Laurel Class, รองเท้าแตะกำมะหยี่, ถั่วและผลไม้แห้งแบบกูร์เมต์ เพื่อยกระดับประสบการณ์การเดินทางของผู้โดยสาร

     เครื่องบิน Boeing 787-9 ลำใหม่ (ทะเบียน B-17887) มาพร้อมกับ Royal Laurel Class, Premium Economy Class, และ Economy Class โดยเครื่องบินรุ่นนี้จะใช้การจัดที่นั่งสามชั้นดังกล่าวในทุกเที่ยวบิน ในระหว่างการบินไปยังไต้หวัน เครื่องบินลำใหม่ได้ใช้น้ำมันการบินที่ยั่งยืน (SAF) ผสมในอัตรา 30% ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 63,000 กิโลกรัม แสดงถึงความมุ่งมั่นของ EVA Air ในการส่งเสริมความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม

     EVA Air เตรียมขยายฝูงบินและพัฒนาคุณภาพการบริการ ด้วยการนำ Boeing 787-9 จำนวน 8 ลำ (การจัดที่นั่งสามชั้นโดยสาร) และ Boeing 787-10 จำนวน 5 ลำ (การจัดที่นั่งสองชั้นโดยสาร) เข้าประจำการภายในปี 2029 นอกจากนี้ สายการบินยังมีแผนที่จะนำเครื่องบิน A350-1000 แบบลำตัวกว้างจำนวน 18 ลำ เข้าประจำการตั้งแต่ปี 2027 และเครื่องบิน A321neo แบบลำตัวแคบจำนวน 15 ลำ เริ่มใช้งานในปี 2029

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

NEWS & TRENDS