นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาศักยภาพการตลาดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ และพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์และสมาคมผู้ค้าปลีกไทยในการขยายตลาดสู่ช่องทางการค้าปลีก กำหนดแผนการตลาดพัฒนาสินค้ารูปแบบใหม่ และส่งเสริมช่องทางการตลาดไปจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ว่า โครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของรัฐบาลเพื่อสนับสนุนให้ชุมชน วิสาหกิจชุมชนมีรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาศักยภาพการตลาดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ และพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์และสมาคมผู้ค้าปลีกไทยในการขยายตลาดสู่ช่องทางการค้าปลีก กำหนดแผนการตลาดพัฒนาสินค้ารูปแบบใหม่ และส่งเสริมช่องทางการตลาดไปจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ว่า โครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของรัฐบาลเพื่อสนับสนุนให้ชุมชน วิสาหกิจชุมชนมีรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
รัฐบาลยืนยันพร้อมที่จะสนับสนุน ส่งเสริม ยกระดับสินค้าโอท็อปและกลุ่มผู้ประกอบการสินค้าโอท็อปให้เป็นอุตสาหกรรมระดับ เอสเอ็มอี เพื่อสร้างความเข้มแข็งและสร้างความร่วมมือให้เกิดขึ้น ดังนั้นการร่วมมือของกระทรวงพาณิชย์ ผู้ผลิตโอท็อปและผู้ค้าน่าจะผลักดันสินค้าโอท็อปไทยให้เป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งจะเป็นการสร้างรายได้ให้กับสินค้าโอท็อปให้เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว โดยการส่งออกสินค้าไทย คิดเป็นสินค้าโอท็อปประมาณร้อยละ 10-20 ซึ่งในปี 2555 มีมูลค่าการค้าโดยประมาณกว่า 100,000 ล้านบาท ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่าจุดเริ่มต้นโครงการเมื่อปี 2545 ร้อยละ 80 และคาดว่าภายใน 5 ปี จะสามารถเพิ่มมูลค่าการค้าในกลุ่มสินค้าโอท็อปได้อีกเท่าตัว
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับสมาคมผู้ค้าปลีกไทยพัฒนาศักยภาพด้านการตลาดหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ สู่ช่องทางการจำหน่ายปลีกในแผนกดีพาร์ตเมนต์สโตร์ ซูเปอร์มาร์เกต ร้านค้า โซนส่งเสริมการตลาด E-commerce และอื่นๆ ตามนโยบายรัฐบาลที่จะนำสินค้าโอท็อปจากผู้ประกอบการที่มีความสามารถเชื่อมโยงสู่ช่องทางการค้าปลีกที่มีศักยภาพ นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือจากผู้ค้าปลีกต่างๆ ได้แก่บริษัทเซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท เอก-ชัยดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (เทสโก้ โลตัส) บริษัทเดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด และบริษัท สรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง จำกัด มาให้ความรู้ในการเข้าสู่ช่องทางการจัดจำหน่าย รวมทั้งมีการเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ค้าปลีกกับผู้ประกอบการ คาดว่าจะมีมูลค่าการค้าเฉพาะในงานนี้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท และมูลค่าการค้าต่อเนื่องตลอดทั้งปี ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวอีกว่า โครงการพัฒนาศักยภาพการตลาด “หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์” ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของรัฐบาล เพื่อสนับสนุนให้ชุมชนมีรายได้ที่ดีขึ้น กระทรวงพาณิชย์จึงได้ร่วมกับสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า “หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์” หรือโอท็อป ผ่านช่องทางจำหน่ายปลีกในห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก ร้านค้า และอื่นๆ เพื่อเป็นแนวทางในการขยายช่องทางการตลาดสินค้าโอท็อปสู่ช่องทางค้าปลีก และกำหนดแผนในการพัฒนาด้านการตลาดร่วมกัน เพื่อจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ