ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2556 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ นำเงินต้นของกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ 400 ล้านบาท มาใช้ในการดำเนินโครงการส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี)วงเงิน300 ล้านบาท และโครงการสำคัญเร่งด่วนที่จำเป็นในการเพิ่มประสิทธิภาพการพัฒนาและส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจำนวน 100 ล้านบาท ในปีงบประมาณ 2557-2558 ปีละ 50 ล้านบาท ตามมติคณะกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ครั้งที่ 1/2556 เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2556 ตามที่กระทรวงพานิชย์ (พณ.) เสนอ
ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2556 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ นำเงินต้นของกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ 400 ล้านบาท มาใช้ในการดำเนินโครงการส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี)วงเงิน300 ล้านบาท และโครงการสำคัญเร่งด่วนที่จำเป็นในการเพิ่มประสิทธิภาพการพัฒนาและส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจำนวน 100 ล้านบาท ในปีงบประมาณ 2557-2558 ปีละ 50 ล้านบาท ตามมติคณะกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ครั้งที่ 1/2556 เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2556 ตามที่กระทรวงพานิชย์ (พณ.) เสนอ
ทั้งนี้เนื่องจากเงินรายได้จากดอกเบี้ยของกองทุนจากเดิมที่สามารถจัดเก็บได้เฉลี่ยร้อยละ 12 ต่อปี แต่ในการจัดเก็บได้จริงลดลงเพียงร้อยละ 3 ตั้งแต่ปี 2549 ขณะที่การแข่งขันทางการค้ามีความรุนแรงมากขึ้น ดังนั้น การส่งเสริมการตลาดและการแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้ามีความจำเป็นต้องใช้เงินกองทุน
สำหรับเงินจำนวน 400 ล้านบาท ตั้งเป้าผลักดันกลุ่มเอสเอ็มอีที่มีการพัฒนาสินค้า บริการ ให้มีคุณภาพ มาตรฐาน นวัตกรรม และสามารถดำเนินธุรกิจ ระหว่างประเทศอย่างมั่นคงไม่ต่ำกว่าปีละ 500 ราย โดยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ เพื่อการซื้อและการขาย