นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยแผนงานด้านทรัพย์สินทางปัญญา ปี 2556 ว่ากรมทรัพย์สินทางปัญญา กำหนดให้ปีนี้ เป็นปีแห่งการต่อต้านการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยจะยังได้เดินหน้าการจับปรับอย่างเข้มข้น รวมทั้ง การเร่งแก้ไขร่างปรับปรุงพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ซึ่งเพิ่มเติมความผิดฐานการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาเป็นความผิดมูลฐาน โดยก่อนหน้านี้ได้ผ่านการพิจารณาของ สภาผู้แทนราษฎร เรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการนำร่างขึ้นทูลเกล้าฯถวายเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยแผนงานด้านทรัพย์สินทางปัญญา ปี 2556 ว่ากรมทรัพย์สินทางปัญญา กำหนดให้ปีนี้ เป็นปีแห่งการต่อต้านการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยจะยังได้เดินหน้าการจับปรับอย่างเข้มข้น รวมทั้ง การเร่งแก้ไขร่างปรับปรุงพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ซึ่งเพิ่มเติมความผิดฐานการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาเป็นความผิดมูลฐาน โดยก่อนหน้านี้ได้ผ่านการพิจารณาของ สภาผู้แทนราษฎร เรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการนำร่างขึ้นทูลเกล้าฯถวายเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย
“กรมทรัพย์สินทางปัญญา จะเสนอหลักเกณฑ์การยึดทรัพย์ เพื่อเอาผิดกับผู้ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยเฉพาะการสืบไปถึงต้นตอ คือผู้กระทำความผิดรายใหญ่จึงได้กำหนดเกณฑ์ หากผู้กระทำผิดมีมูลค่าของสินค้าที่ละเมิดเกินกว่า 5 แสนบาทขึ้นไป จะใช้กฎหมายการฟอกเงินไปดำเนินคดีทางกฎหมาย เพื่อยึดทรัพย์สินผู้กระทำผิด ไม่เฉพาะมูลค่าสินค้าที่ละเมิดเท่านั้น แต่จะยึดทรัพย์ของผู้กระทำผิดด้วย” รมช.พาณิชย์ กล่าว
พร้อมเชื่อว่า หากกฎหมายมีผลบังคับใช้ จะช่วยให้การปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งจะให้กรมสรรพากร รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบการเสียภาษี และการดำเนินธุรกิจในช่วงที่ผ่านมาอีกด้วย ซึ่งในปีที่ผ่านมา มีจำนวนผู้ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญารวม 8,400 รายโดยในจำนวนนี้มี 50 รายที่มีมูลค่าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาเกิน 5 แสนบาทขึ้นไป
โดยในสัปดาห์หน้าจะเชิญเจ้าของพื้นที่เช่าทั้งห้างสรรพสินค้าและพื้นที่ของส่วนราชการ ฯลฯ ช่วยดูแลไม่ให้เกิดการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในพื้นที่ของตนเอง