นายนริศ ชัยสูตร อธิบดีกรมธนารักษ์ประธานกรรมการธนาคารเพื่อพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอีแบงก์กล่าวว่าจะสามารถคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมเข้ามาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหม่ได้ประมาณเดือนมีนาคม 2556 ซึ่งจะต้องมีภารกิจสำคัญคือการแก้ไขหนี้เสียและขยายสินเชื่อของธนาคาร เพื่อฟื้นฟูฐานะของธนาคารให้กลับมาแข็งแกร่งเป็นการด่วน
นายนริศ ชัยสูตร อธิบดีกรมธนารักษ์ประธานกรรมการธนาคารเพื่อพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอีแบงก์กล่าวว่าจะสามารถคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมเข้ามาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหม่ได้ประมาณเดือนมีนาคม 2556 ซึ่งจะต้องมีภารกิจสำคัญคือการแก้ไขหนี้เสียและขยายสินเชื่อของธนาคาร เพื่อฟื้นฟูฐานะของธนาคารให้กลับมาแข็งแกร่งเป็นการด่วน
สำหรับหนี้เสียของธนาคารเอสเอ็มอีแบงก์ล่าสุดอยู่ที่ 4 หมื่นล้านบาท จากยอดสินเชื่อคงค้าง 9.7 หมื่นล้านบาท ในจำนวนหนี้เสียทั้งหมดเป็นหนี้ที่ปรับโครงสร้างหนี้ได้เพียง 1 หมื่นล้านบาท เท่านั้น ที่เหลืออีก 3 หมื่นล้านบาท เป็นหนี้ที่ต้องดำเนินการฟ้องร้องตามกฎหมายต่อไปทั้งนี้ธนาคารมีสินเชื่อใหม่ที่เข้าตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ซึ่งการขยายสินเชื่อใหม่จะช่วยทำให้สัดส่วนหนี้เสียของธนาคารลดลงดังนั้นการฟื้นฟูธนาคารต้องทำควบคู่กันทั้งการแก้ไขหนี้เสีย และขยายสินเชื่อใหม่
“การปล่อยสินเชื่อใหม่จะทำให้ธนาคารมีรายได้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายของธนาคาร และเงินสำรองหนี้ที่มีอยู่ได้อย่างเพียงพอ ทำให้ธนาคารจะกลับมามีผลกำไรได้ในอนาคต” นายนริศ กล่าว
ทั้งนี้ล่าสุดคณะกรรมการธนาคารได้มีมติแต่งตั้ง นางสาวปาริฉัตร เหล่าธีระศิริวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ เป็นรักษาการกรรมการผู้จัดการ คนใหม่แทนนายพงษ์ศักดิ์ ชาเจียมเจน รองกรรมการผู้จัดการ ซึ่งได้ลาออกจากรักษาการกรรมการผู้จัดการ เนื่องจากต้องไปสมัครคัดเลือกตำแหน่งกรรมการผู้จัดการของธนาคารซึ่งเปิดรับสมัครอยู่จนถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2556
โดยก่อนหน้านี้จะให้ นายสุรชัย กำพลานนท์วัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ รักษาตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ แต่ได้รับการยืนยันว่าต้องการสมัครเลือกในตำแหน่งดังกล่าวเช่นกัน เนื่องจากผู้ที่สมัครคัดเลือกไม่สามารถดำรงในตำแหน่งรักษาการได้ทั้งนี้เพื่อความโปร่งใส