ธปท.หารือเอกชนรับมือบาทแข็งกระทบส่งออก

นายประสาร ไตรรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เตรียมเชิญสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เข้าหารือถึงผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งค่ารวดเร็ว เพื่อหาทางออกบรรเทาผลกระทบผู้ส่งออก เบื้องต้นภาคธุรกิจจะได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใดมีปัจจัย 3 ด้าน คือ วัตถุดิบหลักที่ใช้เป็นการนำเข้าหรือเป็นวัตถุดิบในประเทศ เป็นการผลิตเพื่อส่งออกหรือขายในประเทศ อัตรากำไรสูงหรือต่ำ

 


นายประสาร ไตรรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เตรียมเชิญสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เข้าหารือถึงผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งค่ารวดเร็ว เพื่อหาทางออกบรรเทาผลกระทบผู้ส่งออก เบื้องต้นภาคธุรกิจจะได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใดมีปัจจัย 3 ด้าน คือ วัตถุดิบหลักที่ใช้เป็นการนำเข้าหรือเป็นวัตถุดิบในประเทศ เป็นการผลิตเพื่อส่งออกหรือขายในประเทศ อัตรากำไรสูงหรือต่ำ

ผู้ว่า ธปท. ยังย้ำว่า ค่าเงินที่แข็งค่าขึ้น เป็นเพราะเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามาลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นเพิ่มขึ้น และไม่มีสัญญาณโจมตีค่าเงินบาท เพราะไม่เห็นลักษณะการทุบราคาหรือสร้างราคาชี้นำ อย่างไรก็ตาม ธปท.เตรียมเครื่องมือไว้พร้อม สามารถนำมาใช้ได้หากมีความผิดปกติ

สำหรับในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเงินไหลเข้าสุทธิประมาณ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ  ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นจากต้นปีประมาณ 3% เมื่อรวมกับเมื่อสิ้นปี 55 จะแข็งค่าขึ้นประมาณ 5-6% ซึ่งยังน้อยกว่าประเทศอื่นในภูมิภาค เช่น เกาหลีใต้ ค่าเงินแข็งค่า 9% ฟิลิปปินส์ 7% ซึ่งการแข็งค่าของเงินบาทอยู่ในระดับใกล้เคียงกับสิงคโปร์ มาเลเซีย และไต้หวันที่ราว 5%

NEWS & TRENDS