ย้ำสิ้นสงกรานต์เจอต่างด้าวเถื่อนจับนายจ้างโดนด้วย

นายประวิทย์ เคียงผล อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินการออกเอกสารให้แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายทั้ง 3 สัญชาติที่มาขอขึ้นทะเบียนเป็นแรงงานที่ถูกกฎหมาย ก่อนจะหมดเขตในวันที่ 13 เมษายนนี้ ว่า จากข้อมูลของ กกจ. เมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา มีนายจ้างมายื่นขอโควตาแรงงานต่างด้าวทั้ง 3 สัญชาติจำนวน 54,702 คน มีแรงงานมาขอขึ้นทะเบียนเพื่อขออนุญาตทำงานทั้งหมด 414,820 คน แบ่งเป็นแรงงานสัญชาติพม่า 290,020 คน กัมพูชา 88,688 คน และลาว 44,712 กัมพูชา นอกจากนี้ มีบุตรของแรงงานซึ่งเป็นผู้ติดตามจะต้องมาทำ CI จำนวน 2,954 คน แบ่งเป็นบุตรชาวพม่า 920 คน กัมพูชา 1,278 คน และลาว 756 คน

กพร.จับอุตฯเครื่องน่มห่มเพิ่มทักษะแรงงาน

นายนคร ศิลปอาชา อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังลงนามร่วมกับนายสุชาติ จันทรานาคราช ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพแรงงานในอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม ว่า กพร.ร่วมกับมูลนิธิพัฒนาเครื่องนุ่งห่มจัดโครงการนี้ขึ้น เพื่อพัฒนาศักยภาพแรงงานให้สามารถปฏิบัติได้มากกว่า 1 ทักษะ เพื่อช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานและลดต้นทุนการผลิต

SMEs ปรับกลยุทธ์ใช้เงินบาทแทนดอลลาร์

นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล เลขาธิการสมาคมส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย กล่าวว่า เงินบาทแข็งค่าในช่วงนี้เอสเอ็มอีได้รับผลกระทบน้อยกว่าเงินบาทแข็งค่าเมื่อปี 2550 เพราะครั้งนี้เอสเอ็มอีมีประสบการณ์ในการรับมือมากขึ้น โดยหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าเงินบาทจะแข็งค่าถึงกลางปีนี้ทำให้เอสเอ็มอีได้เตรียมรับมือ 3 แนวทาง คือ 1.เจรจากับผู้นำเข้าเพื่อซื้อขายในรูปสกุลเงินของคู่ค้า เช่น ดอลลาร์สิงคโปร์ ริงกิตมาเลเซีย

บสย.ค้ำประกัน 2.4 แสนล้านเสริมสภาพคล่อง SMEs

บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ประกาศความพร้อมให้ความช่วยเหลือค้ำประกันเงินกู้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ตามนโยบายรัฐบาล โดยบสย.ร่วมกับ 18 สถาบันการเงินภาครัฐ-เอกชน ภายใต้โครงการค้ำประกันเงินกู้ของบสย. 2 ประเภท ประกอบด้วย

กสิกรไทยจับมือเจบิคปล่อยกู้ธุรกิจไทย-ญี่ปุ่น 1,700 ล.

นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่ธนาคารกสิกรไทย ได้ร่วมกับธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่นหรือเจบิค (JBIC) และธนาคารพันธมิตรจากญี่ปุ่น 11 แห่ง ได้ให้ความช่วยเหลือสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษแก่นักธุรกิจไทยและญี่ปุ่นในประเทศไทยที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเมื่อปี 2554 ไปแล้วนั้น

กสอ.เปิดรับผู้ประกอบการร่วม "ห่วงโซ่สีเขียว" ช่วยลดต้นทุน

นางศิริรัตน์ จิตต์เสรี รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า สินค้าและบริการที่มีกระบวนการผลิต บนแนวคิดที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมและสังคม กำลังอยู่ในกระแสของตลาดโลก ซึ่งเป็นที่น่าจับตามองต่อภาคอุตสาหกรรม ที่มีกระบวนการผลิตบนพื้นฐานของการใช้ทรัพยากรธรรมชาติเป็นจำนวนมาก ทำให้ภาคการผลิตของหลายอุตสาหกรรมต้องมีการตื่นตัว และปรับเปลี่ยนกลไกการผลิตให้มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทางกระทรวงอุตสาหกรรม(อก.) จึงมีนโยบายผลักดันให้อุตสาหกรรมภายในประเทศเป็นอุตสาหกรรมห่วงโซ่สีเขียวเพื่อนำไปสู่การเป็นผู้นำการพัฒนาอุตสาหกรรมสีเขียวของอาเซียนได้ภายใน 5 ปี โดยได้มอบหมายให้กรมส่งสริมอุตสาหกรรรม(กสอ.) ดำเนินโครงการตามนโยบายดังกล่าว ทาง กสอ. จึงได้ริเริ่มโครงการห่วงโซ่สีเขียวอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป (Green Agro Processing Industry Project: GAPI) ที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่

ไทยเบอร์ 1 เอเชียช็อปออนไลน์อาหารเครื่องดื่ม

มร.อัลบานี วู รองประธานกรรมการฝ่าย Innovation ระดับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกจากนีลเส็นเปิดเผยว่าจากผลสำรวจพฤติกรรมด้านการซื้อสินค้าออกใหม่จากผู้บริโภค 58 ประเทศ ผ่านทางอินเตอร์เนต พบว่า ผู้บริโภคไทยเป็นกลุ่มที่กระตือรือร้นต่อสินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่มที่ออกใหม่มากที่สุดในภูมิภาคเอเชีย ตามมาด้วยจีน และฟิลิปปินส์ อย่างไรก็ตาม ความคุ้นเคยต่อแบรนด์ก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญโดย 68% เลือกที่จะซื้อสินค้าออกใหม่จากแบรนด์ที่คุ้นเคย

พาณิชย์เร่งหาตลาดส่งออกใหม่ช่วยเหลือ SMEs

นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังมอบนโยบายแก่ผู้บริหารระดับสูงของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เพื่อให้แนวทางการดำเนินงานของกรม สอดคล้องกับการดำเนินงานของรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ติดตามดูแลเกี่ยวกับภาคการส่งออกและช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอีซึ่งตนได้มอบหมายให้กรม เร่งผลักดันการหาตลาดใหม่ให้กับเอสเอ็มอีไทย ประกอบกับในปีนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ประมาณการว่าการส่งออกจะมีการขยายตัวอยู่ที่ 8-9% ดังนั้น จึงเป็นสิ่งที่กรมจะต้องปรับแนวทางการบริหารงานให้สอดคล้องกับเป้าหมายที่วางไว้

รัฐย้ำไม่ทิ้ง SME Bannk

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลจะดูแลสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐให้ดีขึ้น โดยเร่งแก้ไขปัญหาต่างๆ และไม่ต้องตกใจสำหรับสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่กำลังมีปัญหา 2 แห่ง ทั้งธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) เพราะเป็นรัฐวิสาหกิจที่อยู่ในความดูแลของรัฐบาล ซึ่งจะให้ความดูแลในเรื่องความมั่นคงและสิทธิของผู้ฝากเงิน โดยหากเป็นสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) หรือหากมีผลขาดทุนจากนโยบายรัฐบาล ก็จะมีการตั้งงบประมาณชดเชยให้อยู่ ซึ่งในส่วนนี้จะรวมถึงผลขาดทุนของรัฐบาลในอดีตด้วย