TEXT : Sir.nim
ยุคนี้มีร้านกาแฟร้านคาเฟ่เกิดใหม่มากมาย นอกจากการแข่งขันกันด้วยรสชาติ ราคา และบรรยากาศ การเพิ่มความน่าสนใจให้กับเมนูเครื่องดื่ม เช่น การเลือกใช้แพ็กเกจจิ้งที่มีความสวยงาม อย่างการเปลี่ยนแก้วเปล่าใสๆ หรือแก้วกระดาษ มาเป็นกระป๋องบรรจุเครื่องดื่ม ก็เป็นอีกวิธีที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะนอกจากจะช่วยดึงดูดใจลูกค้า ยังสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเมนูเครื่องดื่มของเราได้ด้วย อยากเปลี่ยน แก้ว มาเป็น กระป๋อง สร้างมูลค่าเพิ่มเมนูเครื่องดื่ม ต้องรู้อะไรบ้าง ไปดูกัน
อย่างแรกลองมาดูข้อดีการเปลี่ยนมาใช้กระป๋องแทนแก้วกันก่อน มีดังนี้
- ช่วยอัพแวรูให้เครื่องดื่ม
- สะดวกในการ Take Home ให้ลูกค้านำกลับบ้าน
- ขนส่งเดลิเวอรี่ได้สะดวกขึ้น เช่น ช่วยให้ส่งได้ระยะไกลขึ้น ไรเดอร์ซิ่งก็ไม่ต้องกลัวหกเลอะเทอะ
- เก็บไว้ได้นานขึ้น
- รักษ์โลก รีไซเคิลได้
เลือกแบบไหนดี
ตัวเครื่อง
เครื่องปิดฝากระป๋อง มีให้เลือกทั้งแบบใช้อัตโนมัติ, กึ่งอัตโนมัติ และแบบมือโยก แต่ส่วนใหญ่เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการทำงานมักเลือกเป็นแบบอัตโนมัติ โดยราคาเครื่องแบบมือโยกจะเริ่มต้นที่หลักพันปลายๆ ไปจนถึงหลักหมื่น ส่วนแบบกึ่งอัตโนมัติ และแบบอัตโนมัติจะแพงขึ้นมาหน่อย
ยกตัวอย่างเช่น เครื่องของบริษัท Gikit ถ้าเป็นเครื่องรุ่นอัตโนมัติ GKM-22BS-CA01 สำหรับเครื่องดื่มและร้านคาเฟ่ (กระป๋องไม่หมุนระหว่างเครื่องกำลังทำงาน ทำให้เครื่องดื่มเรียงชั้นสวยงาม) ราคาอยู่ที่ 46,000 บาท แต่หากเป็นเครื่องกึ่งอัตโนมัติ รุ่น GKM-22BS-M01 (กระป๋องหมุนระหว่างเครื่องกำลังทำงาน ทำให้ถูกปั่นรวมเป็นเนื้อเดียวกัน เพิ่มความอร่อยยิ่งขึ้น) ราคาอยู่ที่ 39,900 บาท และแบบโยกมือของ SGE รุ่น FCS-H ราคาอยู่ที่ 14,900 บาท (บรรจุได้ 15-20 กระป๋องต่อนาที)
หรือถ้าใครยังไม่มั่นใจ ไม่อยากซื้อขาด หรือเพื่อต้องการนำมาใช้ในงานอีเวนต์ ลองติดต่อกับบริษัทผู้ผลิต บางที่อาจมีบริการให้เช่าไปทดลองใช้ก่อนได้
กระป๋อง
มีให้เลือก 2 แบบ คือ กระป๋องอลูมิเนียม กับแบบกระป๋องพลาสติก PET ซึ่งก็มีข้อดี ข้อเสีย แตกต่างกันไป โดยส่วนมากมีให้เลือก 3 ไซส์ คือ 250 ml, 300 ml และ 500 ml
กระป๋องอลูมิเนียม – ต้นทุนอาจสูงกว่า แต่สามารถนำกลับไปรีไซเคิลได้ แถมช่วยเก็บอุณหภูมิได้ดีกว่า โดยราคากระป๋องเปล่ายังไม่รวมสกรีน (ส่วนใหญ่จะแถมฝามาให้ด้วย)
กระป๋อง PET - ต้นทุนต่อใบถูกกว่า ตัวกระป๋องใส ทำให้มองเห็นความน่ากินของเครื่องดื่มที่อยู่ด้านในได้ ป้องกันการหยิบผิด แต่เก็บอุณหภูมิได้น้อยกว่า
ตัวอย่างราคากระป๋อง เช่น แบรนด์ Masumi (ขนาด 330 ml) ถ้าเป็นกระป๋องอลูมิเนียม ราคาปกติ 16 บาทต่อใบ (ราคาสำหรับสมาชิก 8 บาท/ ใบ) มี 196 ชิ้น/ลัง แต่หากเป็นกระป๋อง PET ราคาปกติอยู่ที่ 6.66 บาท (ราคาสำหรับสมาชิก 3.33 บาท) มี 252 ชิ้น / ลัง
ฝากระป๋อง
มีให้เลือก 2 แบบ คือ แบบมีรู : ใช้หลอดดูด หรือยกดื่มได้เลย และ แบบเปิดหมด : เหมาะกับเครื่องดื่มตักกินได้ เช่น ชานมไข่มุก โดยส่วนมากมักแถมมากับตัวกระป๋อง แต่ต้องการเลือกใช้เฉพาะรุ่น สามารถติดต่อเพื่อเปลี่ยนหรือเพิ่มค่าใช้จ่ายกับบริษัทที่จำหน่ายได้
สกรีนลาย
จะมีให้เลือก 2 รูปแบบ คือ Silk Screen และ Digital Print ความเหมาะสมในการใช้งานก็แตกต่างกันไป
- Silk Screen : สกรีนได้เฉพาะจุด เหมาะกับต้องการผลิตจำนวนเยอะๆ เช่น โลโก้
ค่าใช้จ่าย : ค่าบล็อกสกรีน + ค่าสกรีน(ต่อใบ), มีขั้นต่ำในการผลิตค่อนสูง ราคาต่อใบจะถูกกว่า
- Digital Print : สกรีนได้เต็มใบ เหมาะกับผลิตปริมาณไม่มาก เช่น ทำลวดลายในเทศกาลต่างๆ
ค่าใช้จ่าย : มีค่าวางแบบและขึ้นตัวอย่าง + ค่าสกรีน(ต่อใบ), มีขั้นต่ำในการผลิต ราคาต่อใบสูงกว่า
ตัวอย่างค่าใช้จ่ายต่อใบ (กระป๋องไซส์ 500 ml) จากแบรนด์ All 4 Cans
- Silk Screen
ค่าบล็อก 1,500 บาท (ต่อสี) +กระป๋อง 8 บาท/ใบ (พิมพ์ขั้นต่ำ 500 ใบ) + ค่าสกรีนใบละ 2.25 บาท รวมค่าใช้จ่ายต่อใบ = 10 บาท
- Digital Print
ค่าวางแบบ+ขึ้นตัวอย่าง 800 บาท + กระป๋อง 8 บาท/ใบ (พิมพ์ขั้นต่ำ 200 ใบ) + ค่าสกรีนใบละ 4.25 บาท (พิมพ์เต็มใบ) รวมค่าใช้จ่ายต่อใบ = 12.25 บาท
*เบื้องต้นถ้ายังไม่อยากลงทุนเยอะ ทดลองพิมพ์แค่สติ๊กเกอร์มาติดก่อนก็ได้
ข้อแนะนำการใช้งาน
ข้อควรระวังในการบรรจุเครื่องดื่มลงกระป๋อง คือ
- ทดสอบหาสูตรที่เหมาะสม สำหรับเครื่องดื่มเย็น สามารถใส่น้ำแข็งลงไปด้วย หรือไม่ใส่ก็ได้ แต่ควรมีการทดสอบรสชาติเมื่อเวลาผ่านไปแล้ว ว่าใช้สูตรใดจึงจะลงตัวต่อการบรรจุแบบกระป๋องมากกว่า เพราะบางครั้งการบรรจุกระป๋อง ลูกค้าไม่ได้เปิดดื่มในทันที
- ระวังความต่างอุณหภูมิ ขณะบรรจุเครื่องดื่มใส่กระป๋อง ไม่ควรเป็นอุณหภูมิที่ร้อนจนเกินไป ควรใส่ลงไปตอนอุ่นๆ หรือเย็นแล้ว เพราะหากใส่ไปตอนร้อนๆ และนำไปแช่เย็นทันที อาจทำให้กระป๋องยุบตัว เสียรูปได้ เพราะอุณหภูมิที่ต่างกันเกินไป แต่สามารถแก้ปัญหาได้ โดยหยด ไนโตรเจน เข้าไป ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมที่บริษัทมีจำหน่ายอยู่แล้ว (สามารถเติมได้เหมือนแก๊สหุงต้ม) จะทำให้ช่วยเพิ่มความแข็งแรง และแรงดันในกระป๋องได้มากขึ้น โดยไม่ทำให้เสียรสชาติ
- เพิ่มมูลค่า เก็บรักษาได้นานขึ้น โดยปกติเครื่องดื่มที่บรรจุกระป๋อง จะสามารถยืดอายุการเก็บรักษาได้นานขึ้นกว่าการใส่แก้วเครื่องดื่มทั่วไป อยู่ได้ประมาณ 2-3 วัน แต่หากมีการใส่ไนโตรเจนลงไป จะช่วยเพิ่มระยะเวลาได้นานขึ้นเป็น 5-7 วันได้
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
