TEXT : Sir.nim
PHOTO : Baiprao
ช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อนหากใครชอบเล่น TikTok น่าจะเคยผ่านตากับ Box Set ชุดเตามินิทำอาหารอีกหนึ่งเทรนด์ที่กำลังมาแรงอยู่บนโลกออนไลน์ในขณะนี้ ที่มาของไอเดียดังกล่าวเกิดขึ้นมาจากไหน และช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจได้อย่างไรบ้าง วันนี้จะชวนมาพูดคุยกับ ปรารถนา สุโรพันธ์ หรือ “เชฟแอร์” เจ้าของร้านใบเพรา” (Baiprao) ผู้คิดไอเดีย Box Set ชุดเตามินิผัดกะเพราที่ถูกแชร์ต่อๆ กันในโซเชียล จนทำให้ร้านเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นกัน
2 สัปดาห์ขายได้ 200 ชุด
“จริงๆ ไม่ได้ตั้งใจคิดจะทำขายเลย คือ เราเป็นคนเล่นติ๊กต๊อกอยู่แล้ว ก็เลยอยากลองทำเพื่อหาคอนเทนต์มาลง โดยบังเอิญช่วงนั้นกระแสชุดเตามินิปิ้งย่างเกาหลีกำลังมา เป็นเทรนด์ฮิตเริ่มมาจากที่เกาหลีเลย ก็เลยมาลองคิดดูว่าเราจะเล่นกับกระแสนี้ได้ยังไงบ้าง เลยทำเป็นบ็อกซ์เซตชุดผัดกะเพราขึ้นมา เป็นบ็อกซ์เซตแบบไทยๆ เพราะเรามีสูตรซอสผัดกะเพราของตัวเองอยู่แล้ว แต่จะต่างกันตรงที่ของเขาเอาเนื้อไปย่างบนตะแกรงได้เลย แต่ของเราต้องเอามาผัดทำอาหาร ก็เลยลองออกแบบหาวัสดุมาใช้ทดแทน เช่น กระทะก็ใช้เป็นถ้วยฟอยล์แบบฟู้ดเกรด ตะหลิวก็ใช้ช้อนไม้มาทำ และก็แยกวัตถุดิบ เครื่องปรุงต่างๆ ออกเป็นชุดๆ เช่น หมู, พริกกระเทียม, ใบกะเพรา, ซอสผัด, ข้าว ผัดเสร็จก็สามารถนำมารับประทานได้ด้วย
“ปรากฏว่าหลังปล่อยคลิปออกมามีคนสนใจเข้ามาแชร์และคอมเมนต์กันเยอะมาก จนถึงเริ่มมีคนสนใจเข้ามาสอบถามขอซื้อ เริ่มจากติ๊กต๊อกเกอร์ก่อนเขาอยากซื้อเอาไปทดลองทำดูและทำคอนเทนต์ลงด้วย จากนั้นก็มีถามเข้ามาอีกเรื่อยๆ เราเลยลองทำขาย 2 สัปดาห์ผ่านไปขายได้แล้ว 200 กว่าชุดแล้ว บางคนสั่งทีเดียวเป็น 10 ชุดเลย ก็ไม่คิดว่าคนจะสนใจมากเท่านี้” เชฟแอร์เล่าที่มาให้ฟัง
ซื้อเพราะเอาไปทำคอนเทนต์ลงโซเชียล
โดยเชฟแอร์เล่าว่าเหตุผลในการซื้อนั้น ไม่ใช่เพื่อแค่รับประทานอย่างเดียว แต่มาจากหลายเหตุผลด้วยกัน คือ 1.อยากลอง อยากพิสูจน์ 2. อยากมีประสบการณ์ส่วนร่วม 3. อยากทำคอนเทนต์มาลงในโซเชียล
“กลุ่มลูกค้าที่เข้ามาซื้อชุดเตาของเรา จะไม่ใช่เพราะเขาอยากกินผัดกะเพราเท่านั้น แต่ซื้อเพราะเขาอยากลองทำ อยากพิสูจน์ว่าทำได้จริงไหม โดยเราจะบอกลูกค้าก่อนทุกครั้งว่าค่อนข้างใช้เวลานานนิดนึงนะกว่าจะสุกประมาณ 20-30 นาทีได้ แต่มันสามารถกินได้จริงๆ บางคนก็ซื้อเพราะอยากเอาไปลองทำเล่นกับเพื่อนกับครอบครัวเหมือนได้รำลึกในวัยเด็ก ส่วนบางคนก็อยากไปทำคอนเทนต์สนุกๆ ลงโซเชียลบ้าง
“โดยราคา Box Set ผัดกะเพราของเราจะขายอยู่ที่ชุดละ 189 บาท สำหรับชุดหมู และ 229 บาท สำหรับชุดเนื้อโคขุน โดยสามารถสั่งผ่านแอปเดลิเวอรีได้ ถ้าเป็นต่างจังหวัดก็สามารถสั่งได้ แต่เราจะไม่ส่งของสด เช่น เนื้อสัตว์, พริกกระเทียม หรือข้าวไปให้ แต่จะมีเป็นชุดเตา น้ำมัน และซอสผัดไปให้ โดยคิดราคาชุดละ 159 บาท ยังไม่รวมส่ง”
ฟังจากที่เชฟแอร์เล่ามา ทำให้นึกไปถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคนี้ที่เรียกว่า “Foodstagrammers” ที่ชอบถ่ายรูปก่อนกินเพื่อเอาไว้โพสต์ลงในโซเชียล จนบางคนมองว่าคล้ายกับพิธีการสวดมนต์ก่อนรับประทานอาหาร กลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารยุคนี้ต้องให้ความสำคัญมากขึ้น ไม่ใช่แค่รสชาติดีอย่างเดียว แต่ต้องมองเผื่อไปถึงการสร้างประสบการณ์ ภาพการจัดวางออกมาอย่างสวยงามด้วย
ไม่ใช่แค่รายได้ แต่ได้ช่วยโปรโมตธุรกิจด้วย
โดยเชฟแอร์เล่าเพิ่มเติมว่าผลพลอยได้ที่แท้จริงจากการทำ Box Set ชุดผัดกะเพราออกมาจำหน่าย ไม่ใช่แค่รายได้เท่านั้นที่มีเพิ่มเติมเข้ามา แต่ยังเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าได้รู้จักร้านมากขึ้นด้วย
“จริงๆ เรารู้อยู่แล้วว่าอะไรที่เป็นกระแสไม่นานสักพักก็ต้องหมดไป อีกอย่างด้วยราคาที่สูงกว่าถ้าเทียบกับการสั่งผัดกะเพราทั่วไป เราจึงไม่ได้คาดหวังว่ามันจะยั่งยืน แต่สิ่งที่ได้มากกว่ารายได้ที่เข้ามาก็คือ ทำให้คนได้รู้จักร้านเรามากขึ้นไม่ว่าลูกค้าที่แชร์คลิปต่อๆ กันไป หรือลูกค้าที่ซื้อไปทดลองทำอย่างน้อยๆ เขาก็ได้รู้จักรสชาติผัดกะเพราของทางร้านเราเพิ่มอีกช่องทางหนึ่ง ที่สำคัญยังทำให้เราได้เรียนรู้พฤติกรรมของลูกค้าว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เพื่อนำไปปรับใช้กับธุรกิจหรือในการทำชุด Box Set ต่อไปในอนาคตที่อาจดัดแปลงทำเป็นอย่างอื่นก็ได้ อย่างชุดผัดกะเพราที่ทำออกมาก็มีทั้งคนที่ชอบ แต่บางคนก็ติมาเรื่องการใช้แพ็กเกจจิ้งว่าใช้เยอะสิ้นเปลือง ไม่รักษ์โลก เราก็ต้องนำสิ่งเหล่านี้มาคิดปรับปรุงต่อไป เช่น หาแพ็กเกจจิ้งย่อยสลายได้มาใช้”
นอกจาก Box Set เชฟแอร์ยังมองว่าการทำธุรกิจอาหารในยุคนี้ ผู้ประกอบการควรใส่ความคิดสร้างสรรค์หรือเติมกิมมิกใส่ลงไปด้วย เพื่อสร้างความแตกต่าง เป็นการดึงดูดลูกค้าจากจำนวนผู้แข่งขันที่มีอยู่มากในปัจจุบันนั่นเอง
“ทุกวันนี้ด้วยจำนวนร้านค้าที่เยอะมากขึ้น เราอาจขายอาหารเหมือนกัน แต่เราสามารถสร้างจุดเด่นของตัวเองขึ้นมาได้ ซึ่งทุกวันนี้หน้าตาอาหารเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะบนโลกออนไลน์ จริงๆ แล้วอาหารเราอร่อย แต่ลูกค้าเขาไม่รู้หรอกถ้ายังไม่ได้ลองชิม ฉะนั้นเราจะทำยังไงที่ให้เขาเห็นแค่ภาพก็รู้ว่าอาหารจานนี้อร่อยมาก อยากมาลอง ต้องทำให้เขารู้สึกอร่อยด้วยภาพที่เห็นก่อน” เชฟแอร์กล่าวทิ้งท้ายเอาไว้
How to อยากทำ Box Set ให้ปังต้องทำยังไง
โดยนอกจากเรื่องราวของชุดเตามินิแล้ว เชฟแอร์ยังได้ฝากเทคนิคและข้อควรระวังการนำ Box Set มาใช้สร้างมูลค่าเพิ่มให้ธุรกิจเอาไว้ ดังนี้
คำนึงถึงแพ็กเกจจิ้ง – การจัดทำชุด Box Set ขึ้นมา จะมีต้นทุนค่าแพ็กเกจจิ้งกว่าการจัดส่งอาหารในรูปแบบอื่น ดังนั้นผู้ประกอบการต้องคำนวณต้นทุนให้ดี ดูว่าถ้าจะเลือกใช้แพ็กเกจจิ้งที่เหมาะสมและทำให้ต้นทุนต่ำสุดสามารถทำได้ที่เท่าไหร่ หรือมีแพ็กเกจจิ้งอะไรที่สามารถใช้ทดแทนกันได้บ้าง เพื่อให้ทำราคาขายแข่งขันกับคู่แข่งได้ โดยหลังจากคำนวณต้นทุนแล้ว Box Set 1 ชุดควรได้กำไรไม่ต่ำกว่า 40-50 บาทต่อกล่อง
ทำแบบพรีเมียมไปเลย – โดยหากลองคำนวณดูแล้วสามารถทำราคาแข่งขันได้ยาก ผู้ประกอบการบางรายอาจใช้วิธีทำเป็น Box Set แบบพรีเมียมไปเลยก็ได้ เป็นชุดพิเศษ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้สินค้า และลูกค้ารู้สึกคุ้มค่าที่ได้รับ โดยไม่เกี่ยงเรื่องราคา
ออกแบบวิธีการจัดส่งให้มีคุณภาพ - นอกจากจะออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งานของลูกค้าแล้ว ควรคำนึงถึงคุณภาพการจัดส่งด้วย เช่น หากเป็นเนื้อสัตว์อาจต้องมีการนำไปแช่ฟรีซเอาไว้ เมื่อลูกค้าสั่งจึงค่อยนำออกมา เพื่อให้ลูกค้า ได้รับอาหารที่มีความสดใหม่เสมอ
ก่อนส่งยังไง หน้าตาหลังส่งแล้วต้องเหมือนเดิม – อีกข้อที่ต้องคำนึงถึง ก็คือ ความแข็งแรงและคงทนในการจัดส่ง ก่อนส่งหน้าตาเป็นยังไง หลังส่งก็ต้องเหมือนรูปที่เขาเคยเห็นมาด้วย เพื่อให้ลูกค้าเกิดความประทับใจเมื่อได้รับ ไม่ใช่เปิดไปแล้วเจอทุกอย่างมากองรวมกัน ฉะนั้นจึงอาจต้องหาวิธีล็อกแพ็กเกจจิ้งให้ดี อาจหากาว หรือสก็อตเทปมายึด เพื่อให้ไม่เกิดการหลุดเลื่อนระหว่างขนส่ง
|
ใบเพรา Baiprao FB : ใบเพรา - กะเพราผัดแห้งไฟแดง Delivery โทร. 094 789 8817 |
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
