เจาะความฮอตตู้ Tao Bin ที่แรงไม่เลิกตั้งเป้าขยาย 20,000 ตู้ ใน 3 ปี มากกว่าสาขาเซเว่นฯ ในไทยรวมกัน

 

     พูดถึงแบรนด์เครื่องดื่มสุดฮิตในตอนนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จัก "Tao Bin" หรือ "เต่าบิน" ตู้ชงกาแฟสดและเครื่องดื่มอัตโนมัติที่เปิดให้บริการประหนึ่งเป็นคาเฟ่ 24 ชั่วโมง ด้วยจำนวนเมนูให้เลือกเกือบสองร้อยเมนูนี้แน่นอน เพราะไม่ว่าจะตึกสำนักงาน อพาร์ทเมนต์ คอนโดมิเนียม ห้างสรรพสินค้า จนถึงโรงอาหารก็เป็นทำเลที่ตั้งของตู้เต่าบินได้หมด ไม่ต่างอะไรกับร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่นที่มีอยู่แทบทุกหัวถนน

     โดยเปิดตัวมาได้เพียงแค่ปีกว่าแต่สามารถกระจายออกไปได้มากกว่า 800 ตู้แล้ว จึงไม่แปลกเลยที่แบรนด์จะบอกว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า ตู้เต่าบินจะกระจายอยู่ทั่วไทยมากกว่า 20,000 ตู้ ซึ่งคิดดูแล้วอาจมากกว่าสาขา 7 – Eleven ทั้งประเทศรวมกันก็ได้ อะไรจะฮิตกันขนาดนี้ ว่าแล้วลองมาทำความรู้จักแบรนด์พร้อมกันเลย

  

จากตู้เติมเงิน ต่อยอดสู่ตู้ชงเครื่องดื่มอัตโนมัติ

     โดยตู้เต่าบินนั้นดำเนินการภายใต้ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ FSMART เจ้าของเดียวกับตู้เติมเงิน “บุญเติม” นั่นเอง โดยเริ่มติดตั้งลงพื้นที่จริงตั้งแต่ต้นปี 2563

เมนูเยอะสุด แต่กลับขายต่ำสุด

     ด้วยจำนวนเมนูที่มากกว่า 170 เมนู ซึ่งหากเทียบกับร้านคาเฟ่บางแห่งแล้วอาจมีให้เลือกไม่ถึง 50 เมนูด้วยซ้ำ แถมราคาสตาร์ทเริ่มต้นก็เพียงแก้วละ 15 บาท ไปจนถึง 40 บาท จึงไม่แปลกที่ตู้เต่าบินจะได้รับความนิยมจากลูกค้ามาก โดยมีให้เลือกตั้งแต่เมนูชา กาแฟ เครื่องดื่มผสมนม น้ำโซดา น้ำผลไม้ โปรตีนเชค และสารพัดเมนูร้อนเย็นปั่น แถมมีความหวานให้เลือกถึง 5 ระดับ ตั้งแต่ไม่ใส่น้ำตาลเลย ไปจนถึงหวานมาก ซึ่งก่อนจะออกมาเป็นสูตรแต่ละเมนูนั้น ได้ผ่านการทดลองชิมจากบาริสต้าตัวจริงก่อนแล้ว

เปิดมาปีกว่า แต่มีเกือบพันตู้แล้ว

     ซึ่งแม้จะเปิดดำเนินการมาได้เพียงปีกว่าๆ แต่ตู้เต่าบินก็ออกวางสู่ท้องตลาดกว่า 818 ตู้แล้ว โดยทางบริษัทตั้งเป้าว่าภายใน 3 ปีนี้จะขยายให้ได้มากถึง 20,000 ตู้ ซึ่งหากลองคิดคำนวณดูแล้วมากกว่าจำนวนสาขาของ 7-Eleven ในไทยที่มีอยู่ประมาณ 13,134 สาขา โดยขยายสาขาเฉลี่ยปีละ 700 กว่าแห่งเสียอีก

     โดยยุทธวิธีที่บริษัทนำมาใช้ขยายสาขาขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็คือ การเปิดรับตัวแทนเพื่อมาดูแลบริหารจัดการตู้ในจุดต่างๆ โดยคุณสมบัติตัวแทน คือ ค่อนข้างต้องการรายใหญ่นิดนึง เพื่อให้สามารถช่วยควบคุมคุณภาพสินค้าได้ โดยตัวแทน 1 คนจะต้องดูแลตู้เต่าบินอย่างน้อย 50 ตู้ โดยบริษัทจะไม่ได้ขายตู้ให้ แต่ใช้วิธีแบ่งผลกำไร ตัวแทนไม่ต้องลงทุนซื้อตู้จริง แต่ต้องลงทุนค่ารถ ค่าวัตถุดิบ นอกจากนี้ยังต้องมีความรู้ด้านเทคนิคหรือทีมช่างเป็นของตัวเองได้ด้วยเพื่อดูแลตู้ ซึ่งวิธีการนี้ทำให้บริษัทไม่ต้องเหนื่อยลงทุนไปดูแลเองทุกตู้ เพราะเบื้องต้นสามารถให้ตัวแทนเป็นผู้ดูแลได้

ในตู้เต่าบินมีอะไร?

     ด้วยจำนวนเมนูเครื่องดื่มที่มากมาย จึงทำให้หลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่าจริงๆ ในตู้เต่าบินนั้น มีคนแอบซ่อนนั่งชงอยู่หรือเปล่า ในข้อนี้ผู้บริหารเต่าบินเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า สาเหตุที่ภายในตู้นั้นสามารถชงเครื่องดื่มได้มากมายขนาดนี้เป็นเพราะเทคโนโลยีอัจฉริยะจากสมองกลที่มีการเขียนโปรแกรมเป็นแผงวงจรป้อนไว้ข้างใน เพื่อทำหน้าที่จับคู่วัตถุดิบที่เป็นส่วนผสมต่างๆ ไปจนถึงน้ำร้อนในการชง ปริมาณน้ำแข็ง เพื่อจัดเตรียมเป็นเมนูออกมาตามที่ลูกค้าต้องการ จากนั้นจะมีแขนกลคค่อยทำหน้าที่ชง อันเป็นเหตุผลว่าทำไมทุกแก้วจึงได้รสชาติมาตรฐานคงเดิม โดยส่วนผสมหนึ่งอย่างสามารถนำไปมิกซ์กับส่วนผสมอื่นๆ แตกออกมาได้อีกหลายเมนู โดยหากนับเป็นสิทธิบัตรที่จดแล้วละก็ภายในตู้เต่าบินมีอยู่เกือบถึง 30 สิทธิบัตรทีเดียว

เฉลี่ยยอดขายกว่า 1.6 ล้านบาทต่อวัน

     นอกจากเทคโนโลยีอัจฉริยะด้านการทำเครื่องดื่มแล้ว สมองกลในเครื่องยังช่วยเก็บข้อมูลผู้บริโภคแต่ละพื้นที่ ทำให้รู้ว่าพื้นที่ไหนลูกค้าชอบกินอะไรมากเป็นพิเศษ เมนูไหนขายดี หรือเมนูไหนขายได้น้อย ทำให้สามารถนำมาวางแผนบริหารจัดการสต็อกให้สอดคล้องกับยอดขายได้ โดยมีการตั้งเป้าอย่างน้อยใน 1 วันต้องขายได้ไม่ต่ำกว่า 50 แก้วต่อตู้ แต่ขายได้จริง คือ ไม่ต่ำกว่า 60 แก้วต่อวัน หากนำมาคูณด้วยราคาเฉลี่ย 34 บาทต่อแก้ว และจำนวนตู้ 818 ตู้จะมีรายได้รวมวันละราว 1.6 ล้านบาททีเดียว ซึ่งสถิติยอดขายสูงสุดที่เคยทำมาได้ คือ 200 กว่าแก้วต่อ 1 ตู้ใน 1 วัน

คาเฟ่อัตโนมัติ สโลแกนนี้ไม่ได้ๆ มาเล่นๆ

     ส่วนที่ว่ากันว่าเต่าบินเหมือนเป็นคาเฟ่ 24 ชั่วโมงนั้น คำกล่าวนี้ไม่ได้ๆ มาเพียงเพราะความสะดวกสบายที่อยากกดสั่งกินเวลาไหนก็ได้เท่านั้น แต่ยังมีเมนูปั่นเหมือนร้านคาเฟ่ หรืออย่างตัวเมล็ดกาแฟเองก็มีการเลือกใช้ให้เหมาะสมกับเมนูแต่ละอย่าง เช่น คั่วกลาง, คั่วเข้ม หรือ ดาร์ก แถมยังมี Single Origin คั่วอ่อน เหมือนร้านกาแฟสมัยใหม่หรือร้านสเปเชียลตี้ให้เลือกด้วย

กลยุทธ์เต่า (จะ) บิน ตอบโจทย์ 4 P ทุกข้อ

     กล่าวโดยสรุปถึงกลยุทธ์ของเต่าบินจริงๆ แล้วเข้าค่ายหลักการตลาดพื้นฐานอย่าง 4 P ได้เลย โดย1. Product - ความหลากหลายของเมนูที่มีให้เลือกมากมาย 2. Price - ราคาที่ทุกคนสามารถจับต้องได้ เริ่มต้นต่ำสุดเพียง 15 บาท 3. Place - สามารถนำไปวางตั้งเข้าถึงได้ทุกสถานที่ด้วยขนาดเพียง 1 ตารางเมตร และ 4. Promotion - การส่งเสริมการขาย โดยมีการทำระบบสมาชิกให้กับลูกค้าขาประจำในแต่ละกลุ่มเป้าหมายด้วย

 

TEXT : กองบรรณาธิการ

PHOTO : เต่าบิน

 

ที่มา : https://www.longtunman.com/36206

https://www.tao-bin.com/

https://www.blockdit.com/posts/624c1f0a5cd06ce1b1af748e

https://www.brandbuffet.in.th/2022/03/tao-bin-robotic-barista-vending-machine-business-strategies/

RECCOMMEND: MARKETING

ส่องธุรกิจสเต็ก 3 ลุง หนวด-หยิก-ใหญ่ ปั้นสตรีทฟู้ดส์ยังไงให้ครองใจมหาชน

พาคุณไปเจาะลึกเบื้องหลังธุรกิจสเต็ก 3 ลุง สเต็กลุงหยิก, สเต็กลุงใหญ่, สเต็ก ลุงหนวด ตั้งแต่จุดเริ่มต้นเล็กๆ จนกลายเป็นร้านสตรีทฟู้ดที่ครองใจมหาชน

ธุรกิจความตายสุดครีเอทในไทย ที่ไม่ได้มีแค่โลงศพ พวงหรีด และดอกไม้จันทร์

จะดีกว่าไหม ถ้าเราสามารถเตรียมตัวรับมือกับความตายได้? นี่เอง น่าจะเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้มีหลายไอเดียธุรกิจทั้งก่อน และหลังความตาย เกิดขึ้นมามากมายอย่างสร้างสรรค์ จนทำให้มูลค่าตลาดธุรกิจเกี่ยวกับความตาย เพิ่มสูงขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ