Ahref ครบเครื่องเรื่อง SEO รวมวิธีใช้เวอร์ชันฟรีสำหรับ SME ไปใช้ได้จริง

Text: ประสิทธิ์ วรฉัตราวณิช

ที่ปรึกษา และผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดดิจิทัล และอีคอมเมิร์ซ

             

     ปัญหาของผู้ประกอบการที่เริ่มต้นทำธุรกิจออนไลน์ก็คือ การทำให้คอนเทนต์ของสินค้า หรือบริการไปปรากฎตรงหน้ากลุ่มเป้าหมาย ซึ่งวิธีการที่สะดวก และรวดเร็วที่สุดก็คือ การใช้โฆษณา แต่มันก็ต้องแลกกับค่าใช้จ่ายที่สูงพอสมควร เนื่องจากต้องแข่งกับคู่แข่งที่แย่งชิงพื้นที่โฆษณานั้น ยิ่งเปิดหน้าร้านหลายแพลตฟอร์ม ก็ยิ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว ที่แย่ยิ่งกว่าหากผู้บริโภคที่พบเห็นโฆษณาของคุณแล้วรู้สึกเหมือนถูกยัดเยียดในสิ่งที่ไม่ได้ต้องการ นอกจากไม่ได้ลูกค้าแล้ว ยังเสียค่าใช้จ่ายไปโดยเปล่าประโยชน์อีกด้วย

     ที่กล่าวเช่นนี้ก็ไม่ได้กำลังจะบอกว่า การใช้โฆษณาฯ ไม่ใช่วิธีที่ไม่ถูกต้อง แต่ต้องทำให้ถูกวิธี คือ คุณต้องเข้าใจการทำงานของระบบโฆษณา การทำคอนเท็นต์ และพฤติกรรมความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งถ้า SME ที่กระโดดเข้าสังเวียนออนไลน์ด้วยโฆษณา โดยไม่ทำความเข้าใจเรื่องนี้ก่อน โอกาสเสียมากกว่าได้แน่นอน

  • SEO เพิ่มโอกาสธุรกิจแบบใช้เวลา

 

     อย่างไรก็ดี นอกจากการใช้เครื่องทุ่นแรงในการสร้างโอกาสธุรกิจด้วยโฆษณาแล้ว ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่ผู้ประกอบการสามารถทำได้ นั่นก็คือ การทำ SEO (Search Engine Optimization) ซึ่งหมายถึง เทคนิคการทำให้คอนเทนต์บนแพลตฟอร์มต่างๆ ถูกค้นพบโดยกลุ่มเป้าหมาย ด้วยคำค้น (Search Term) ที่พวกเขาป้อนเข้าไปในช่องค้นหาบนแพลตฟอร์มต่างๆ นั่นเอง การทำให้ธุรกิจไปปรากฎตรงหน้ากลุ่มเป้าหมายด้วยวิธีนี้ ไม่มีค่าใช้จ่าย (ยกเว้นจ้างคนอื่นทำ) แต่ต้องใช้เวลา  ในการพัฒนาคอนเท็นต์เพิ่มขึ้น เนื่องจากการบ้านหลักๆ 2 ข้อของการทำ SEO คือ การใส่ ”คีย์เวิร์ด” ที่สอดคล้องกับคำค้นของกลุ่มเป้าหมายเข้าไปในคอนเท็นต์ใดๆ (หน้าเว็บ โพสต์บนเฟซบุ๊ก ไตเติลยูทูบ ฯลฯ) และ “แบ็คลิงค์” (Backlink) การทำให้คอนเท็นต์ของธุรกิจถูกลิงค์เข้ามาจากภายนอก (เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง โพสต์เฟซบุ๊กของเพจอื่นๆ รายละเอียดใต้คลิปยูทูบ ฯลฯ) ซึ่งหากทำ 2 ข้อนี้ได้ดี ธุรกิจของคุณก็จะมีโอกาสถูกค้นพบโดยกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นนั่นเอง แทนที่จะพึ่งโฆษณาเพียงอย่างเดียว และเพื่อให้การบ้านของคุณง่ายขึ้น ขอแนะนำ ahrefs (https://ahrefs.com/) ออกเสียงว่า เอช-เรฟ เครื่องมือสำหรับการทำ SEO ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง โดยผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในการทำ SEO มากมาย (แต่ต้องมีความเข้าใจพื้นฐาน) คุณก็สามารถทำให้คอนเท็นต์ของผลิตภัณฑ์ หรือบริการถูกค้นพบในอันดับต้นๆ และเกิดแทรฟฟิกเพิ่มมากขึ้น ซึ่งหมายถึง โอกาสขายที่เพิ่มขึ้นด้วย แล้ว ahref ช่วยอะไรคุณได้บ้าง ไปติดตามกันครับ

  • Ahrefs ลองใช้แล้วจะติดใจ

 

     Ahrefs เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การทำ SEO ของทั้งมือใหม่ มือสมัครเล่น และผู้สนใจเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาก เนื่องจากมาพร้อมกับฟีเจอร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างคีย์เวิร์ด ตรวจสอบแบ็คลิงค์ หรือลิงค์มีปัญหา วิเคราะห์คุณภาพเว็บไซต์ (ทำ SEO ได้ดีแค่ไหน มีปัญหาตรงไหน แก้ไขอย่างไร ฯลฯ) ตลอดจนการหาคอนเท็นต์ที่น่าสนใจ โดยสามารถลงทะเบียนใช้ฟรี แต่จำกัดเรื่องของข้อมูล และคุณสมบัติการทำงานบางอย่าง ซึ่งหากต้องการใช้งานอย่างเต็มที่จะต้องเสียค่าบริการ สำหรับ SME ที่ต้องการปรับแต่ง SEO ในเบื้องต้นด้วยตัวเอง อาจจะลองใช้ฟีเจอร์ฟรีก่อนก็ได้ มาดูกันว่า คุณสามารถใช้ ahrefs เวอร์ชันฟรี ทำอะไรได้บ้าง?

  • Keyword Generator คีย์เวิร์ดที่น่าสนใจ

 

     บริการค้นหาคีย์เวิร์ดที่น่าสนใจฟรี (Free Keyword Generator) หากคุณต้องการรู้ว่า คีย์เวิร์ด ที่อาจหมายถึงประเภทสินค้า หรือบริการของคุณ มีการใช้คำค้นอะไรบ้าง ก็เพียงแค่คลิกเข้าไปที่ https://ahrefs.com/keyword-generator แล้วพิมพ์ในช่องป้อนคีย์เวิร์ด (Enter Keyword) เลือกประเทศไทย แล้วคลิกปุ่ม Find keywords เพียงแค่อึดใจ ระบบจะแสดงคีย์เวิร์ด 100 รายการ ปริมาณการค้นเฉลี่ยต่อเดือน (Volume) และข้อมูลนี้อัปเดทเมื่อไร ส่วน KD (Keyword Differculty) เป็นค่าแสดงความยากในการติด 10 อันดับแรกบนหน้าผลลัพธ์การค้นของ Google โดยตัวเลขน้อยๆ จะหมายถึง “ง่าย” แต่เดี๋ยวก่อน การใช้ตัววัดนี้ ในการเพิ่มโอกาสติดอันดับ จะไม่ใช่แค่การใช้คีย์เวิร์ดในคอนเท็นต์ของเราเท่านั้น แต่หมายรวมถึง ลิงค์ที่กลับมายังหน้าเว็บของเราต้องใช้คีย์เวิร์ดนี้ด้วย Google ยืนยันว่า แบ็คลิงค์ หรือลิงค์ที่กลับมาจากภายนอกเว็บไซต์เป็น 3 ปัจจัยแรกที่ใช้ในการจัดอันดับ ถ้า KD อยู่ในช่วง 0-10 ต้องการแบ็คลิงค์ 10 โดเมน, 11-30 ต้องการ 11-36 โดเมน, 31-37 ต้องการ 37-200 โดเมน และ 71-100 ต้องการ 200 โดเมนขึ้นไป

     สำหรับคุณผู้อ่านที่ทำช่องยูทูบขายของ อาจจะต้องการคีย์เวิร์ดสำหรับยูทูบโดยเฉพาะ ซึ่ง ahrefs ก็มีบริการให้ใช้ฟรีเหมือนกัน นั่นคือ YouTube Keyword Tool  โดยคลิกเข้าไปที่ https://ahrefs.com/youtube-keyword-tool

  • Keyword Difficulty Checker

 

     ไหนๆ ก็พูดถึงเรื่องของระดับความยากในการดันให้คีย์เวิร์ดที่ต้องการช่วยให้หน้าเว็บของคุณติดอันดับต้นๆ ด้วยแบ็คลิงค์คุณภาพไปแล้ว ถ้าคุณอยากรู้เลยว่า คีย์เวิร์ดที่สนใจอยู่นั้น มีความยากแค่ไหนในการดันให้ติดอันดับ ก็สามารถเข้าไปตรวจสอบได้เลยด้วย บริการ Keyword Difficulty Checker โดยคลิกเข้าไปที่ https://ahrefs.com/keyword-difficulty (สังเกตที่ด้านล่างของระดับคะแนน KD จะมีการแสดงลำดับผลลัพธ์การค้น (SERP) 10 อันดับแรกให้ด้วย)

  • SERP Checker เจ้าที่แรงแค่ไหน?

 

     บริการนี้จะช่วยให้คุณรู้ว่า เว็บไซต์ที่ติด 10 อันดับแรกของการค้น มีความเข้มแข็งแค่ไหน อย่างไร โดยกติกาที่ใช้ในการวิเคราะห์ผลลัพธ์การค้นของ aherfs ก็คือ ความแข็งแรงของแบ็คลิงค์ เมื่อเทียบกับคู่แข่ง โดยเฉพาะแบ็คลิงค์ที่มาจากโดเมน หรือเว็บไซต์ที่ประวัติดี มีขื่อเสียง แอคทีฟตลอด ซึ่งจะไม่ขึ้นกับจำนวนแบ็คลิงค์ หรือโดเมนที่ลิงค์กลับมาเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ยังพิจารณาเรื่องแทรฟฟิกของหน้าเว็บอันเกิดจากคีย์เวิร์ดนั้นๆ ด้วย ถ้าอยากขึ้นแท่นอันดับหนึ่งด้วยคีย์เวิร์ดเดียวกันนี้ คุณก็ควรมีแบ็คลิงค์ที่มีคณภาพมากกว่า แทรฟฟิกมากกว่า เป็นต้น สำหรับการใช้งานก็เหมือนเดิม คลิกเข้าไปที่ https://ahrefs.com/serp-checker  เวอร์ชันฟรี จะแสดงข้อมูลการแข่งขันในแต่ละอันดับแค่ 3 รายการแรกเท่านั้น

  • Backlink Checker แบคลิงค์ที่มีดีจริงหรือเปล่า?

 

     อย่างที่บอกไปแล้วว่า Google ให้ความสำคัญกับแบ็คลิงค์ในการจัดอันดับ ดังนั้นปริมาณ และคุณภาพของแบ็คลิงค์ที่กลับมายังเว็บไซต์ของเรา จึงมีความหมายมากๆ คุณสามารถตรวจสอบว่า มีแบ็คลิงค์ (Back Links) กลับมายังเว็บมากเท่าไร จากกี่โดเมน (Referring Domains) คะแนนคุณภาพโดยรวมของเว็บไซต์ที่ลิงค์กลับมา (Domain Rating) ตลอดจนแต่ละหน้าเว็บที่มีแบ็คลิงค์มีแทรฟฟิก (Traffic) บนเสิร์ช Google เดือนละเท่าไร ข้อมูลนี้จะทำให้เห็นเลยว่า แบ็คลิงค์มีคุณภาพแค่ไหน สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ที่ https://ahrefs.com/backlink-checker

     นอกจากจะตรวจสอบประวัติของแบ็คลิงค์ที่คุณได้รับแล้ว ยังสามารถตรวจสอบแบ็คลิงค์ และลิงค์ของคุณที่ชี้ไปยังหน้าเว็บที่ไม่มีอยู่จริง หรือลิงค์ผิดได้อีกด้วย ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพของเว็บไซต์ของคุณโดยตรง โดยคุณสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ที่ Broken Link Checker https://ahrefs.com/broken-link-checker

     และทั้งหมดคือ ฟีเจอร์บางส่วนที่สามารถใช้บริการได้ฟรีของ ahrefs ซึ่งหากต้องการใช้งานแบบจัดเต็มครบทุกฟีเจอร์ ก็คงต้องลงทุนกันหน่อย โดยนอกจากคุณจะสามารถวิเคราะห์คีย์เวิร์ด แบ็คลิงค์ของเว็บไซต์ตัวเองได้แล้ว ยังวิเคราะห์ของคู่แข่งได้ด้วย ทั้งนี้ ahrefs มีเวอร์ชันทูลบาร์บน Chrome และ Firefox ให้เลือกใช้ด้วย สำหรับ SME ที่เล็งเห็นว่า SEO เป็นเรื่องสำคัญ และน่าจะช่วยให้ธุรกิจออนไลน์ของคุณ มีโอกาสไปปรากฎตรงหน้ากลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น นอกเหนือจากการใช้โฆษณาเพียงอย่างเดียว การลองใช้ ahrefs น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับคุณ

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี 

 

RECCOMMEND: MARKETING

ถอดวิธีคิดญี่ปุ่น 5 เคล็ดลับออกแบบสินค้าที่ครองใจคนทั่วโลก

เคยสงสัยไหมว่าทำไมสินค้าจากญี่ปุ่นถึงได้รับความนิยมไปทั่วโลก? ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์, แกดเจ็ต, นั่นเพราะสินค้าจากแดนปลาดิบมักจะโดดเด่นด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง และฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด

เจาะลึกเทรนด์ร้านอาหารและเครื่องดื่มปี 2568 ที่ธุรกิจต้องรู้

 ในปี 2568 ยังคงเป็นสนามแข่งขันที่ดุเดือด ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกแนวโน้มสำคัญๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในวงการอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อเป็นแนวทางในการวางแผนธุรกิจและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

เอาสินค้าเข้า Modern Trade ต้องทำยังไง? เจาะลึกทุกขั้นตอน สู่ความสำเร็จบนชั้นวางสินค้า

การก้าวเข้าสู่โลกของ Modern Trade นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย วันนี้ SME Thailand จะพาคุณไปล้วงเคล็ดลับจากวงในมาเปิดเผยแบบหมดเปลือกกัน