ถอดรหัส Ice Bucket Challenge สู่บทเรียน Viral-Marketing

 




แปลและเรียบเรียง : เจษฎา ปุรินทวรกุล

    กลายเป็นกระแสอย่างครึกโครมในต่างประเทศเมื่อเราได้เห็น Bill Gates, Mark Zuckerberg ตลอดจนเซเลบผู้มีชื่อเสียงหลายต่อหลายคน เอาถังน้ำผสมน้ำแข็งมาเทใส่ตัวเองจนเปียกปอนไปทั้งตัว ก่อนจะกลายเป็นข่าวอย่างคึกคักเมื่อเซเลบที่มีชื่อเสียงในประเทศไทยต่างก็พากันตอบสนองแคมเปญ Ice Bucket Challenge กันอย่างต่อเนื่อง 

    สำหรับกระแสนี้ไม่ใช่เกิดขึ้นมาให้เราดูกันอย่างสนุกสนานเท่านั้น เพราะหากคุณเป็นผู้ประกอบการ หรือคิดจะเริ่มต้นประกอบธุรกิจส่วนตัว ลองเรียนรู้ความสำเร็จจากแคมเปญนี้ดูว่าอะไรที่ส่งผลให้แคมเปญนี้ประสบความสำเร็จ ส่วนใครที่คิดแล้ว อาจยังคิดไม่ออก ลองมาฟังคำอธิบายจาก Gabrielle Boko รองประธานบริหารฝ่ายการตลาดแห่ง Sage North America ซึ่งผลิตซอฟท์แวร์ประเภทต่างๆ เพื่อซัพพอร์ทธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง โดยเขาได้สรุปความสำเร็จจาก Ice Bucket Challenge เป็นหัวข้อๆ ดังต่อไปนี้  

    1. กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน

   เดิมทีเป้าหมายของ Ice Bucket Challenge คือ สร้างการรับรู้ให้คนทั่วไปได้ตระหนักถึงอาการของโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Amyotrophic Lateral Sclerosis – ALS) และระดมทุนสำหรับทำงานวิจัยเพื่อหาทางรักษาโรคนี้ ซึ่งความสำเร็จจากแคมเปญการกุศลในครั้งนี้ถือว่าประสบผลสำเร็จเกินกว่าที่คาดเอาไว้มาก เพราะการเข้าร่วมแคมเปญนั้นทำได้ง่ายสุดๆ เพียงแค่บริจาคเงิน หรือไม่ก็เอาถังน้ำผสมน้ำแข็งราดตัวเองจากหัวจรดเท้าเท่านั้นเอง (หรือทำ 2 อย่างเลยก็ได้เช่นกัน) นักการตลาดวิเคราะห์ว่าผู้บริโภคในปัจจุบันไม่นิยมอ่านข้อความยาวๆ หรือบทความที่ต้องมานั่งทำความเข้าใจ แต่พวกเขาต้องการความเรียบง่าย เข้าใจง่าย และสิ่งนั้นจะทำให้กิจกรรมหรือแคมเปญประสบความสำเร็จ 
 


    2. ทำให้สนุกและง่ายเข้าไว้

  การที่เราได้เห็นบุคคลมีชื่อเสียงเอาถังน้ำผสมน้ำแข็งมาราดใส่ตัว แล้วยืนตัวสั่น ยืนตัวแข็ง ถือเป็นสิ่งที่น่าสนุก ใครได้ชมคลิปหรือวีดิโอเข้าก็ต้องให้ความสนใจ เพราะคนเราทุกคนชอบที่จะหัวเราะมากกว่าเคร่งเครียด พอเจอคลิป ภาพตลกๆ หรือเรื่องสนุกๆ ก็มักจะชวนให้เพื่อนๆ มาร่วมชมด้วย ซึ่งเรื่องเบาสมองทั้งหลาย จะช่วยให้ผู้คนเชื่อมต่อกับองค์กรได้ง่าย และส่งผลให้เกิดการมีส่วนร่วมหรือช่วยบริจาคเงินได้ในที่สุด

    3. อาศัยความฉับไว

   ผู้ที่ถูกท้าให้เข้าร่วม Ice Bucket Challenge มีเวลาตัดสินใจเข้าร่วมกิจกรรมภายใน 24 ชั่วโมงเท่านั้น ดังนั้น หากคุณต้องการไอเดียที่ดีเพื่อทำกิจกรรมหรือแคมเปญในสังคมยุคนี้ ต้องพยายามคิดถึงกรอบความเป็นจริงที่จะทำให้กิจกรรมหรือแคมเปญขับเคลื่อนต่อไปได้เรื่อยๆ โดยไม่สะดุด สามารถทำได้จริงและไม่ว่าใครก็ทำได้ รวมถึงอาจมีการกำหนดเส้นตายให้กับผู้ชมหรือผู้ที่ต้องการเข้าร่วม ซึ่งความคิดริเริ่มสร้างสรรค์นี้นับเป็นอีกหนึ่งความสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
 


    4. เข้าใจในพลังของการเพิ่มจำนวน

   แคมเปญ Ice Bucket Challenge จะให้ผู้ที่เข้าร่วม ท้าคนอีก 3 คน ให้เข้าร่วมเอาถังน้ำผสมน้ำแข็งมาราดตัวเองด้วย ดังนั้น เมื่อมีคนตอบรับมากขึ้น ผู้ที่เข้าร่วมและรับรู้ถึงข่าวสารก็ยิ่งมีมากขึ้นตามไปด้วย ประกอบกับการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คอย่างทรงพลังในปัจจุบัน ก็ยิ่งทำให้แคมเปญนี้สร้างแรงกระเพื่อมให้เกิดการรับรู้ เข้าร่วม และบริจาคได้อย่างรวดเร็ว     

    5. แชร์เรื่องราวผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์ค

   ข่าวของแคมเปญ Ice Bucket Challenge ได้รับการแชร์ผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์ค ตั้งแต่ Facebook, Twitter, Instagram และ YouTube ซึ่งถ้าคุณคาดหวังให้ไอเดียหรือแคมเปญกลายเป็นการตลาดแบบบอกต่อ (Viral Marketing) ให้พยายามทำให้การบอกต่อเรื่องราวเป็นไปอย่างง่าย เพื่อให้ผู้คนสามารถแชร์เรื่องราวหรือข่าวสารผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์คได้อย่างสะดวก 
 

 
    6. ทำให้ผู้เข้าร่วมได้รู้สึกดี

   ทุกๆ คนล้วนต้องการที่จะรู้สึกดีกับสิ่งที่ตัวเองทำไม่ว่าเรื่องนั้นจะเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม ซึ่งแคมเปญ Ice Bucket Challenge นั้น เริ่มต้นขึ้นเพราะต้องการระดมทุนเพื่อเรื่องเกี่ยวกับการแพทย์ ไม่จำกัดปริมาณเงินที่บริจาคด้วย ทำให้ผู้เข้าร่วมรู้สึกดีที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น นอกจากนั้นยังทำให้ผู้เข้าร่วมทุกคนรู้สึกมีความสามัคคี ได้ทำกิจกรรมเชิงบวกร่วมกัน   

Create by smethailandclub.com

RECCOMMEND: MARKETING

วิกฤตสูงวัย เด็กเกิดใหม่น้อย กรณีศึกษาธุรกิจญี่ปุ่น ปรับตัวผลิตสินค้าผู้ใหญ่แทนสินค้าเด็ก

Oji Holdings ผู้ผลิตผ้าอ้อมในญี่ปุ่นประกาศยุติผลิตผ้าอ้อมเด็ก หันไปเพิ่มปริมาณการผลิตผ้าอ้อมผู้ใหญ่แทน สาเหตุมาจากอัตราการเกิดที่ลดลงและจำนวนประชากรสูงวัยของญี่ปุ่นที่เพิ่มสูงขึ้น

โอกาสโกอินเตอร์ของแบรนด์ไทย ทำงานกับนักธุรกิจระดับโลก งาน Gifts & Premium Fair ฮ่องกง

ฮ่องกงขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนที่มีการจัดงานแสดงสินค้าที่ยิ่งใหญ่ของโลกแห่งหนึ่ง และหนึ่งในนั้นคืองานแสดงสินค้าของขวัญและของพรีเมียมภายใต้ชื่อ Hong Kong Gifts & Premium Fair ซึ่งกำลังจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 27-30 เมษายน 2024